ศุกร์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ (Stop Cyberbullying Day) ร่วมสร้างความตระหนัก เสริมความเข้าใจ ต่อต้านภัยร้ายบนโลกออนไลน์ พร้อมเรียนรู้วิธีรับมือ เมื่อถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์
ปัจจุบัน การใช้สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดตามมาพร้อมสังคมออนไลน์คือ ไซเบอร์บูลลี่ (Cyberbully) หรือการกลั่นแกล้งออนไลน์นั่นเอง
ไซเบอร์บูลลี่ คือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้วยความต้องการที่จะล่วงละเมิดเหยื่อ ทำให้เหยื่ออาย ข่มขู่เหยื่อ คุกคาม ทำร้าย ใครก็มีโอกาสเป็นผู้ถูกกระทำได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพศไหน อย่างที่เราเห็นเป็นข่าวว่าคนดังในแวดวงต่างๆก็ถูกไซเบอร์บูลลี่เช่นกัน แล้วถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ถูกกระทำ คุณควรรับมืออย่างไร
ไม่ตอบโต้
อย่าตอบโต้หรือพูดอะไรไปในทำนองเดียวกัน การตอบกลับในรูปแบบเดียวกัน หรือพยายามทำให้อีกฝ่ายอาย หรือคุกคามอีกฝ่ายเพื่อแก้แค้น มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
แคปภาพหน้าจอ
ถ้าทำได้ แคปภาพหน้าจอสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นการไซเบอร์บูลลี่ และทำบันทึกเอาไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
บล๊อกและรีพอร์ท
สื่อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชั่นให้บล็อกบัญชีผู้ใช้นั้นๆและสามารถรีพอร์ตผู้ใช้คนที่ไซเบอร์บูลลี่ได้
คุยเรื่องนี้กับใครสักคน
คุณอาจจะไม่รู้สึกอยากคุยกับใคร แต่การถูกไซเบอร์บูลลี่มีผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำหลายด้าน และคุณไม่ใช่คนเดียวที่ถูกกระทำ การคุยกับคนอื่นไม่ใช่แค่ช่วยคุณหาคนสนับสนุนเท่านั้น แต่เป็นการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นหลักฐานด้วย
เรื่องนี้จริงจังขนาดไหน
ลองประเมินดูว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีความจริงจังขนาดไหน ถ้าเป็นการเรียกชื่อด้วยคำหยาบคายจากคนที่ไม่รู้จัก วิธีการจัดการที่ง่ายที่สุดคือการบล๊อกและรีพอร์ท
แจ้งอย่างเป็นทางการ
ถ้าคุณถูกคุกคาม หรือมีการเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณไปเผยแพร่ หรือทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย คุณควรแจ้งตำรวจ ถ้าคุณถูกไซเบอร์บูลลี่จากคนที่ทำงานหรือคนที่เรียนที่เดียวกัน ควรรายงานกับหัวหน้าหรืออาจารย์
ความเป็นส่วนตัว
คุณควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบไม่เปิดสาธารณะ และไม่ควรคอนเน็คกับคนที่คุณไม่รู้จักตัวตนจริง ให้คิดแบบเดียวกับที่คุณจะไม่คุยกับคนแปลกหน้าตามท้องถนน สิ่งที่คุณเห็นออนไลน์อาจไม่ใช่คนเดียวกับในความเป็นจริง การคอนเน็คกับคนที่ไม่รู้จักอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวคุณเองและคนรอบข้าง
คุณอาจคุยกับอีกฝ่ายต่อหน้ากัน
บางครั้งการคุยกันออฟไลน์อาจเป็นวิธีการจัดการที่ดี แต่ต้องให้มั่นใจว่าควรมีคนกลางอยู่ด้วย และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้
ลองพยายามเห็นอกเห็นใจ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คนที่ชีวิตปกติมีความสุขและมั่นคงจะไม่บูลลี่คนอื่น โดยส่วนใหญ่ คนที่บูลลี่คนอื่นมักกำลังเผชิญกับปัญหาส่วนตัวเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว อาจเป็นการดีที่คุณจะพักเบรกจากอินเตอร์เน็ตสักพัก เป็นการพักใจพักสายตาไปด้วยในตัว หากคุณสงสัยว่าพฤติกรรมไหนเข้าข่ายไซเบอร์บูลลี่ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ พฤติกรรมแบบไหนคือไซเบอร์บูลลี