svasdssvasds

4 สมุนไพร หาง่าย ช่วยรักษาฝ้า

4 สมุนไพร หาง่าย ช่วยรักษาฝ้า

ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ ถือเป็นปัญหาใหญ่กวนใจหลายคนมาช้านาน ยิ่งทิ้งไว้นานก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ปัญหา ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ เหล่านี้จะหมดไป หากลองหันมาใช้ 4 สมุนไพร ช่วยรักษาฝ้า

4 สมุนไพรหาง่าย ช่วยรักษาฝ้า เป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่เรารู้จักกันดีอย่างยิ่ง ลองมาดูสมุนไพรที่ช่วยรักษาฝ้า ด้วยแผนสมุนไพรไทยที่หาได้ง่าย 4 ชนิด ให้สาวๆ สามารถแก้ปัญหาเรื่องฝ้าได้ง่ายๆ ที่บ้าน

1.สูตรหัวไชเท้า

หัวไชเท้าเป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องช่วยรักษาฝ้า โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำหัวไชเท้าบดหยาบ ๆ มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที (แต่หากมีอาการแสบหรือแดงให้รีบล้างออก) แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สามารถทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวันในกรณีที่ผิวไม่มีอาหารแพ้ ด้วยสารสกัดจากหัวไชเท้าจะช่วยลดฝ้าทำให้ฝ้าดูจางลง รวมถึงช่วยลดริ้วรอยต่างๆ

4 สมุนไพร หาง่าย ช่วยรักษาฝ้า

2.สูตรมะขามเปียก

อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร นั้นก็คือมะขามเปียก โดยสามารถนำเนื้อมะขามเปียกมาพอกหรือทาบางๆ บริเวณผิวที่มีรอยฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาทีแล้วล้างออก กรด AHA จากมะขามเปียกจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกทำให้รอยฝ้าดูจางลงและยังช่วยลดรอยด่างดำได้ด้วย แต่ต้องระวังหากผิวระคายเคืองได้ง่าย

3.สูตรใบบัวบก

สมุนไพรรักษาฝ้าอีกสูตรที่ทำได้ไม่ยากจากใบบัวบก โดยใบบัวบกสามารถใช้ในการรักษาฝ้า กระ รวมไปถึงช่วยรักษาแผลไฟไหม้ แผลเป็น และช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในผิวหนังได้ดี วิธีใช้สำหรับสูตรนี้ก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่นำมาปั่นแล้วเลือกใช้น้ำใบบัวบกมาเช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เพียงเท่านี้รอยฝ้าต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ จางลง

4 สมุนไพร หาง่าย ช่วยรักษาฝ้า

4.สูตรน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 

อีกหนึ่งคุณประโยชน์ของน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์คือมีประโยชน์ในด้านการช่วยดูแลผิวพรรณได้  เนื่องจากในน้ำส้มสายชูนั้นมีฤทธิ์กรดจึงช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสจากสารสกัดธรรมชาติ เพียงแค่ผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย ใช้สำลีชุบและเช็ดให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออกก็ช่วยให้ฝ้าจางลงแล้ว

ทั้ง 4 สูตรเป็นวิธีการรักษาฝ้าที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ช่วยประหยัดค่าครีมรักษาฝ้าแพงๆ และไม่ต้องกลัวระคายเคืองจากสารเคมีเนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงปลอดภัย เพียงแค่เลือกใช้ให้เหมาะกับผิวของเรา และหากมีอาการแสบแดงให้รีบหยุดใช้ รวมถึงต้องคำนึงว่าสมุนไพรแต่ละชนิดมีฤทธิ์เป็นกรด จึงควรใช้แต่พอดีและเว้นช่วงให้ผิวได้พักบ้าง