วินิจฉัย กระดูกคอเสื่อม โรคที่ ตูน บอดี้สแลม ป่วยเกิดจากอะไร

14 Dec 2020

โรคกระดูกคอเสื่อม หรือกระดูกคอทับเส้นประสาท เป็นโรคที่ ตูน บอดี้สแลม ต้องเข้ารับการรักษา เพราะแขนชาข้างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันคนเป็นกันเยอะมาก เรามาหาคำตอบกันว่า สาเหตุของโรคนี้แท้จริงแล้วคืออะไร มีอาการบ่งบอกอย่างไร รวมถึงขั้นตอนการรักษาอย่างไร

โรคกระดูกคอเสื่อม หลายคนจะเริ่มมีอาการปวดคอ ร้าวไปที่แขน บางคนเป็นหนักเข้าก็อาจทำให้แขนขาอ่อนแรงจนเดินไม่ได้เลยก็มี ฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง เพื่อการรักษาที่ดีในขั้นตอนต่อไป

ผศ.นพ.ทวีศักดิ์ จันทร์วิทยานุชิต ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โรคกระดูกคอเสื่อม นับเป็นอีกหนึ่งโรคของการเจ็บปวดของกระดูกที่พบได้มากในปัจจุบัน สาเหตุสำคัญคือ อายุที่มากขึ้นตามวัย ข้อต่อต่างๆ ระหว่างกระดูกคอแต่ละปล้องที่ได้รับแรงกระแทกมานาน มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะโครงสร้างไป เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังที่มีส่วนประกอบของน้ำ เปลี่ยนจาก 88 เปอร์เซ็นต์ในเด็ก เป็น 70 เปอร์เซ็นต์ในคนอายุ 72 ปี ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังยุบลง คนอายุมากจึงเตี้ยลงกว่าเดิม และมีความยืดหยุ่นลดลง ส่งผลให้ส่วนอื่นที่อยู่รอบข้างต้องรับแรงกระแทกมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากหินปูนมาเกาะกระดูกและเอ็นพังผืดต่างๆ ทำให้หนาตัวขึ้น จนกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการที่มักเกิดตรงบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมากที่หลังคอและหลังเอว

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนขึ้นไปมักจะมีการเสื่อมที่กระดูกสันหลังได้ โดยจากภาพรังสีของคนทั่วไป พบว่า คนอายุ 50 ปี จำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีอาการกระดูกคอเสื่อม และคนอายุ 65 ปี พบเพิ่มขึ้นเป็น 75-85 เปอร์เซ็นต์

ลักษณะอาการของโรคกระดูกคอเสื่อม

เมื่อเกิดหินปูนที่เกาะกระดูกและเอ็น จะไปกดเส้นประสาททำให้เกิดอาการ ปวดคอร้าวไปยังแขนและเกิดอาการชาที่แขนตรงกล้ามเนื้องอแขน และอาจปวดร้าวไปถึงแขนท่อนล่าง จนถึงนิ้วโป้งและนิ้วชี้ และอาการเส้นประสาทคอเส้นที่ 7 ถูกกด (โดยระดับกระดูกคอที่มีการเสื่อมบ่อยมาก คือ กระดูกข้อที่ 5-6 และข้อที่ 6-7) คือปวดหลังคอร้าวไปด้านหลังของไหล่ ไปหลังแขนตรงกล้ามเนื้อเหยียดแขน และอาจปวดร้าวไปถึงด้านหลังของแขนท่อนล่าง จนถึงนิ้วกลาง ถ้ามีการกดประสาทไขสันหลังขึ้น จะมีอาการแบบค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ

ถ้ามีการกดเส้นประสาท จะมีอาการปวดร้าวไปตามบริเวณที่เส้นประสาทถูกกด อาการนี้มักจะเป็นๆ หายๆ แบบเรื้อรัง โดยจะเป็นแบบนี้เรื้อรังหลายปี และจะลุกลามจนกระทั่งเดินไม่ได้เลยทีเดียว

ระยะเริ่มต้นโดยส่วนใหญ่มักมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น เดินไม่คล่อง ทำของหล่นจากมือบ่อยๆ เมื่อเป็นมากขึ้นจะเดินขากาง โน้มตัวไปข้างหน้า ในที่สุดก็จะเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น กลัดกระดุมเสื้อไม่ได้ เขียนหนังสือลายมือไม่เหมือนเดิม ซึ่งเมื่อทำการตรวจร่างกาย ก็จะพบกล้ามเนื้อมือลีบลงและอ่อนแรงลง กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง มีอาการปวดแบบไฟฟ้าช็อตหรือชาไปกลางหลังเวลาก้มคอ

การวินิจฉัยเพื่อรักษา

เมื่อคนอายุมากส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกคอที่เห็นได้จากภาพรังสี ฉะนั้นหากมีอาการควรไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ว่าเป็นโรคกระดูกคอเสื่อมหรือไม่ แต่ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีอาการ ดังนั้นการวินิจฉัยโรคนี้ต้องซักประวัติและตรวจร่างกายให้ละเอียด อาการทุกอย่างต้องเข้าได้กับภาพทางรังสี และภาพทางคอมพิวเตอร์แม่เหล็ก (MRI)