ครบรอบ 79 ปี "สวัสดี" 22 มกราคม 2486 ประกาศใช้เป็นคำทักทาย

คำทักทายแบบไทยๆ อย่าง "สวัสดี" ที่ทุกคนใช้กันในชีวิตประจำวันทั่วไป รู้หรือไม่จุดเริ่มต้นของการใช้คำนี้ก็คือเมื่อ 79 ปีก่อน หรือต้องย้อนกลับไปในวันที่ 22 มกราคม 2486 

คำว่า "สวัสดี" มีที่มาจากรากศัพท์ "โสตฺถิ" ในภาษาบาลี และ "สวัสติ" ในภาษาสันสกฤต โดยเริ่มใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ผู้ริเริ่มใช้คำดังกล่าวเป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น ก่อนที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นจะเห็นชอบให้ใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการ โดยมอบหมายให้กรมการโฆษณา (กรมประชาสัมพันธ์) ออกข่าวประกาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2486 

นอกจากคำว่า "สวัสดี" แล้ว ในยุคของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ยังกำหนดให้คนไทยทักทายกันตอนเช้าว่า "อรุณสวัสดิ์" โดยแปลมาจากคำว่า "Good Morning" และให้ทักทายกันในตอนบ่ายว่า "ทิวาสวัสดิ์" มีที่มาจากคำว่า "Good Afternoon" ส่วนตอนเย็นให้ทักทายว่า "สายัณห์สวัสดิ์" มาจากคำว่า "Good Evening" และปิดท้ายวันด้วยคำว่า "ราตรีสวัสดิ์" ที่มาจากคำว่า "Good Night"

นอกจากการที่วันนี้เป็นวันครบรอบ 79 ปี ของคำว่าสวัสดีในประเทศไทยแล้ว SPRiNG ยังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคำว่าสวัสดีในภาษาอื่นอีกด้วย นอกจากนั้นยังสามารถใช้ทักทายกับคนอื่นได้อีกด้วย และนี่คือ 15 คำทักทายว่าสวัสดีจากต่างประเทศ

• Bonjour (ภาษาฝรั่งเศส) คำอ่าน : Bonjour (บงชูร์)
• Hola (ภาษาสเปน) คำอ่าน : Hola (โอล่า)
• Hello (ภาษาอังกฤษ) คำอ่าน : Hello (ฮัลโหล)
• Olá (ภาษาโปรตุเกส) คำอ่าน : Olá (โอล่า)
• 你好 (ภาษาจีน) คำอ่าน : Ni Hao (หนีห่าว)
• 안녕하세요 (ภาษาเกาหลี) คำอ่าน : Anyoung haseyo (อันยองฮาเซโย)
• おはようございます (ภาษาญี่ปุ่น) คำอ่าน : Ohayo gozaimasu (โอฮาโย โกไซมัส)
• ສະບາຍດີ (ภาษาลาว) คำอ่าน :Sabaidee (สะบายดี)
• Kamusta (ภาษาฟิลิปินส์) คำอ่าน : Kumusta (กูมุสตา)
• 你好 (ภาษาสิงคโปร์) คำอ่าน : Ni Hao (หนีห่าว)
• xin chào (ภาษาเวียดนาม) คำอ่าน : Xin Chao (ซินจ่าว)
• Shuo Sa Dai (ภาษากัมพูชา) คำอ่าน : Shuo Sa Dai (ซัวสเด)  
• Salamat Datang (ภาษาบรูไน) คำอ่าน : Salamat Datang (ซาลามัต ดาตัง)
• ဟယ်လို (ภาษาพม่า) คำอ่าน : Mingalar Par (มิงกาลาบา)