เตือน! คนกรุงฯ เตรียมหน้ากากอนามัย พรุ่งนี้ลมอ่อน ฝุ่นพุ่ง [คลิป]

กรมควบคุมมลพิษ รายงาน สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ระบุว่า สภาพอุตุนิยมวิทยา ช่วงบ่ายในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ลมพัดแรง ยังคงไม่มีฝนตก ทำให้เจือจางฝุ่นละอองได้บางส่วน โดยสถานการณ์ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในวันนี้ เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลา 12.00 น. เล็กน้อย

โดยพบฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ โดยพื้นที่ริมถนน เกินค่ามาตรฐาน 3 สถานี พื้นที่ทั่วไป เกินค่ามาตรฐาน 3 สถานี

โดยคาดการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค. 62) จากการพยากรณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา 'อากาศลอยตัวได้ดี แต่ลมพัดอ่อนลง' ประกอบกับพรุ่งนี้เป็นการทำงานวันแรกของสัปดาห์ที่มักมีการจราจรหนาแน่น ส่งผลทำให้ปริมาณฝุ่นละออง pm2.5 มีโอกาสสูงขึ้น

ทั้งนี้ กรมควบคุมลพิษ ยังคงประสานงานกับ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่น PM2.5 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เช่น ล้างถนนทุกวันทุกสาย ฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อเพิ่มความชื้น ตรวจจับรถควันดำเกินค่ามาตรฐาน การทำฝนเทียม และห้ามเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาด

จากกรณีที่ นายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาป้องกันและจัดการภัยพิบัติ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลวิจัยเกี่ยวกับโลหะหนักในฝุ่นละออง PM 2.5 ที่วัดได้ในชั้นบรรยากาศทั่วกรุงเทพฯ จากผลวิจัยเป็นเวลา 1 ปี พบธาตุเคมีที่เป็นโลหะหนัก ซึ่งเป็นธาตุก่อมะเร็งปะปนอยู่ในอากาศ ระดับต้องเฝ้าระวังอยู่ถึง 3 ชนิด คือ “สารหนู” “ซีลีเนียม” และ “แคดเมียม” โดยธาตุพวกนี้เกิดจากการเผาไหม้ของอุตสาหกรรมและยานพาหนะ โดยคณะวิจัยฯ ได้เก็บค่าระดับความเข้มข้นโลหะหนักในฝุ่น PM 2.5 จากสถานีตรวจวัดฝุ่นละออง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2 ปี พบธาตุโลหะหนักเพิ่มอีก 2 ชนิดคือ “ทังสเตน” และ “แคดเมียม” โดยธาตุ 2 ชนิดนี้พบในส่วนผสมของโลหะดิสก์เบรกยานยนต์

ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ชี้แจงว่า ปริมาณฝุ่น องค์ประกอบของฝุ่นจะมีความแตกต่างกันตามฤดูกาล การวิเคราะห์องค์ประกอบของฝุ่น สามารถใช้เพื่อศึกษาแหล่งกำเนิดของฝุ่นได้ การพิจารณาผลกระทบจากปริมาณฝุ่นและองค์ประกอบทางเคมีของฝุ่นที่บุคคลได้รับ จึงต้องมีการพิจารณาประเด็นต่างๆ อย่างรอบคอบ