svasdssvasds

ในหลวง พระราชทานถุงยังชีพ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยขอนแก่น

ในหลวง พระราชทานถุงยังชีพ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยขอนแก่น

ในหลวง พระราชทานถุงยังชีพ ช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หลังได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล ถูกน้ำท่วมจม 7 อำเภอ

วันนี้ (4 กันยายน 2562) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอําพน กิตติอําพน องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมอันเชิญถุงพระราชทานร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,997 ถุง มอบให้กับแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่

ขณะที่ช่วงบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอําพน เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,497 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ณ ศาลาการเปรียญ วัดไทรทอง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

โอกาสนี้องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้รับทราบ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารพระราชทานให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยและเดินทางมารับถุงพระราชทาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มาให้ความช่วยเหลือราษฎร กับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่จำนวน 3 ราย พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจกับราษฎร ซึ่งต่างปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

พร้อมกันนี้ยังได้เชิญถุงพระราชทานไปมอบให้กับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วม เป็นชายวัย 20 ปี ได้เสียสละเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วมก่อนเกิดเหตุไฟดูดเสียชีวิต

สำหรับจังหวัดขอนแก่น ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนโพดุล ที่พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่จังหวัดขอนแก่น ฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2562 ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายใน 7 อำเภอ (โนนศิลา,บ้านไผ่,ชนบท,แวงน้อย,หนองสองห้อง,บ้านแฮด,และเมืองขอนแก่น) 37 ตำบล 315 กมหมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล 39 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 41,283 ครัวเรือน 202,838 คน เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว โดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ระดมให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนต่อไปแล้ว

related