svasdssvasds

ตร.เตือนอย่าตื่นตระหนก WIFI ร้านกาแฟ จัดเก็บข้อมูล 90 วัน มีมานานแล้วหน้าที่ของร้านค้า

ตร.เตือนอย่าตื่นตระหนก WIFI ร้านกาแฟ จัดเก็บข้อมูล 90 วัน มีมานานแล้วหน้าที่ของร้านค้า

รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ ยืนยันการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของ WIFI ในร้านกาแฟ มีมานานแล้ว ประชาชนไม่ต้องตื่นตะหนก สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะกฎหมายฉบับดังกล่าว ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว ซึ่งกำหนดผู้ที่ให้บริการเก็บข้อมูล ไม่ใช่ลูกค้า

จากกรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการให้ร้านกาแฟ ร้านเตอร์อินเตอร์เน็ต ที่ปล่อยWIFIให้ลูกค้าเล่นเน็ต จะต้องเก็บข้อมูลตามกฎหมายประมาณ 90 วันนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า เรื่องนี้ขอเรียนว่าจากประเด็นกรณีดังกล่าวนั้น ที่มีการเตือนให้ร้านกาแฟต่างๆ ร้านที่ให้บริการเน็ตคาเฟ่ หรือในลักษณะที่เปิดให้ผู้ใช้บริการต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต WIFI ภายในร้าน ให้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ( Logfile) ของผู้ลงทะเบียนใช้ WIFI ของร้านเป็นเวลา 90 วัน

ตร.เตือนอย่าตื่นตระหนก WIFI ร้านกาแฟ จัดเก็บข้อมูล 90 วัน มีมานานแล้วหน้าที่ของร้านค้า

เพื่อเป็นข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่รัฐฯ ใช้ในการสืบสวนสอบสวน กรณีเกิดการกระทำความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการดำเนินการของผู้ให้บริการตามกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนต้องยุ่งยาก ลำบาก หรือเกิดความเสียหายแต่อย่างใด

ตร.เตือนอย่าตื่นตระหนก WIFI ร้านกาแฟ จัดเก็บข้อมูล 90 วัน มีมานานแล้วหน้าที่ของร้านค้า

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า กฎหมายฉบับดังกล่าว มีการประกาศบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยหลักแล้วกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ผู้ที่ให้บริการดำเนินการเก็บข้อมูล ไม่ใช่ผู้ใช้บริการ สำหรับประชาชนทั่วไปก็สามารถใช้บริการหรือดำเนินการต่างๆได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวล หรือตื่นตระหนกตกใจอะไร

ตร.เตือนอย่าตื่นตระหนก WIFI ร้านกาแฟ จัดเก็บข้อมูล 90 วัน มีมานานแล้วหน้าที่ของร้านค้า

โดยภาครัฐให้ผู้บริการทำการเก็บข้อมูล ก็เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ใช้ในการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมืองในคดีต่างๆ ทุกประเภท อาทิเช่น คดีความมั่นคงคดีฉ้อโกง หลอกลวง หมิ่นประมาท หรือเกี่ยวกับความผิดทางคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด ป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ถือได้ว่าเกิดประโยชน์แก่สาธารณะ

ซึ่งที่ผ่านมาในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คดีฉ้อโกงประชาชน หรือคดีที่มีมูลค่าความเสียหายมากและผู้เสียหายจำนวนหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์สืบสวนสอบสวนจนสามารถนำสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จากการใช้ข้อมูลในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกทั้งยังถือเป็นหลักสากล ที่นานาประเทศได้ดำเนินการในลักษณะคล้ายกับประเทศไทย ที่กฎหมายบังคับเช่นนี้ ก็เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองรักษาความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือบนโลก Social Media นับวันจะมีจำนวนพิ่มมากขึ้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-“บิ๊กป้อม” ยันไม่ละเมิดสิทธิประชาชน หลังดีอีขอเอกชน เก็บข้อมูลผู้ใช้ WiFi 90 วัน

-ปอท.เรียก “ครูบลู” พบคดีโชว์หวิว 10 ก.ค. ฟันข้อหาพ.ร.บ.คอมฯ

-กุเรื่องโพสต์!! มีหนาวจ่อเข้า “ซังเต”

 

 

 

related