แพทย์ชี้ "ไวรัสโคโรน่า" ไม่ต่างกับไข้หวัดใหญ่ 2009

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาค วิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับ ไวรัสโคโรน่า เมื่อวันที่ 25-26 ม.ค.2563 ระบุความว่า

ปอดบวม อู่ฮั่น โคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 

ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันประมาณ 900 ราย เสียชีวิต 26 รายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เกิน 65 ปี ไวรัสนี้เป็นไวรัสตัวใหม่ ไม่เคยพบในมนุษย์มาก่อน เมื่อเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ขาดองค์ความรู้ ของโรค ถ้ามองในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของโรคปอดบวม อู่ฮั่น ก็คงจะไม่เลวร้ายไปกว่า การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ในระยะแรกก็ตื่นตระหนกเช่นเดียวกัน หลังจากระบาดใหญ่ ไวรัสตัวนี้ก็ประจำถิ่น เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลไปเรียบร้อยแล้ว คนส่วนใหญ่เคยเป็น และมีภูมิอยู่บ้างแล้วการระบาดใหญ่จึงลดลง ทุกวันนี้ก็ยังตรวจพบและมีการระบาดเป็นหย่อม เช่นการระบาดในโรงเรียนที่เราเห็นอยู่ ว่ามีไข้หวัดใหญ่ เอ ระบาด ปิดโรงเรียน

กลุ่มโคโรน่าไวรัส ก่อโรคให้ทั้งคนและสัตว์มีเป็นจำนวนมากมาย ที่พบในคน เดิมมี 6 สายพันธุ์ สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์ที่ 7 ส่วน 4 สายพันธุ์เดิม ส่วนใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจของเด็ก ผู้ใหญ่ส่วนมากเคยติดเชื้อมาแล้วและมีภูมิต้านทาน และแข็งแรงกว่า ยกเว้นผู้สูงอายุ ทำนองเดียวกัน อู่ฮั่นโคโรน่าไวรัส จะเห็นว่าในเด็ก หรือวัยกลางคน อาการจะน้อย แทบจะไม่มีใครเสียชีวิตเลย

โรคนี้ติดต่อทางฝอยละออง ที่ผู้ป่วยไอ จามออกมา แล้วตกทำโต๊ะ พื้น ที่ต่างๆเมื่อเราเอามือไปสัมผัส แล้วมือนั้นมาโดนใบหน้า ขยี้ตา จมูก ปาก ทำให้ติดเชื้อได้ การเดินสวนไปสวนมาไม่ทำให้ติด ยกเว้นว่ามีการไอจามเกิดขึ้น ฝอยละอองกระเด็นมาถูกเรา การล้างมือจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ในฤดูกาลนี้ไม่ควรจะถูกต้องไปหน้า ถ้าไม่ได้ล้างมือก่อน การรับประทานอาหารที่สุกสะอาด ไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค หรือการใช้ช้อนกลางก็เป็นการป้องกันการสัมผัสระหว่างคนสู่คนได้ การปฏิบัติตัวให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็เป็นวิธีหนึ่งในการป้องกันโรคได้

ปอดบวมอู่ฮั่น โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่

โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ความรุนแรงน้อยกว่า SARS มากๆ โรคทุกโรคที่แสดงอาการมากจะอยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็ง ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการจะมีอีกจำนวนมาก

โรคที่ความรุนแรงน้อยจะระบาดได้กว้างหรือทั่วโลก อย่างเช่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อระบาดไปกว้างแล้วจะเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น เป็นเพียงในเด็ก เช่น หวัด ไอ โรคทางไวรัส ทางเดินหายใจ ในเด็กอาการจะน้อย ไม่รุนแรง อาการจะรุนแรงมาก ในผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคปอด โรคเบาหวาน โรคหัวใจ

ความรุนแรงของโรคโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2009 ความรุนแรงน่าจะเท่ากับไข้หวัดใหญ่ การป้องกันก็คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เหมือนไข้หวัดใหญ่

ปอดบวม อู่ฮั่น กับ การใช้หน้ากากอนามัย

โดยทั่วไปการป้องกันโรคทางเดินหายใจ กับการใช้หน้ากากอนามัยแบบคาด เราจะให้ผู้ป่วยใส่ ในการป้องกันการกระจายโรค คนดี ไม่เป็นโรค ไม่จำเป็น ผมเอาหน้ากากอนามัย ขึ้นเครื่องบิน มีคนนั่งข้างผม ไม่สบาย ไอ แทนที่ผมจะเอาหน้ากากอนามัย มาใส่ ผมจะเอาหน้ากากอนามัยนั้น ยื่นให้ผู้ป่วยใส่ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายเชื้อ จะลดการแพร่กระจายเชื้อได้ 90%

ถ้าผมเอามาใส่ผมจะป้องกันการติดเชื้อได้ 10% การติดต่อโรค จะต้องสัมผัส แล้วมาโดนหน้าตา เรา ถ้าเราไม่ล้างมือ มาจับหน้ากากอนามัย ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเรา จะต้องเป็น N95 จะป้องกันได้ 95% โดยเฉพาะโรค ที่มากับอากาศ เช่นหัด วัณโรค

แพทย์บุคลากรทางการแพทย์ จะเข้าไปดูแลผู้ป่วย จำเป็นต้องใส่ และใส่ชุดป้องกันตัวเอง การใส่ N95 ให้ได้ผลดีจะต้องทำ Fit Test ลมจะต้องไม่รั่ว เข้าทางด้านข้าง แม้แต่น้อย การใส่ให้ถูกวิธี จะอึดอัดมาก ใส่ได้ไม่นานเป็นชั่วโมงก็เก่งแล้ว

การใส่แล้วลมเข้าออกทางด้านข้าง หรือห้อยลงมา ก็จะไม่ต่างกับหน้ากากธรรมดา โดยสรุปหน้ากากอนามัยไว้ให้ผู้ป่วยใส่ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

คนดีจะใส่เป็นเพื่อน ก็ไม่ว่า แต่ถ้าต้องการที่จะใส่ป้องกันตัวเรา จะแนะนำให้ใส่ ในคนที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หรือบุคลากรทางการแพทย์ ที่ดูแลผู้ป่วย แต่จะต้องใส่ N95 และต้องใส่ให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันตัวเรา

ถ้าเราตื่นตระหนก ไปแย่งกันซื้อหน้ากากอนามัย ก็จะไม่เพียงพอ แบบเป็นข่าว จะเป็นผลเสียในการป้องกันโรค กรณีที่มีการระบาดของโรค

ปอดบวม อู่ฮั่น โคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 

เช่นเดียวกับโรคไวรัสๆอีกหลายชนิด การติดเชื้อมีได้ตั้งแต่ไม่มีอาการของโรค มีอาการของโรค และโรครุนแรงถึงปอดบวม โดยทั่วไปการติดเชื้อในเด็ก หรือผู้ที่มีอายุน้อย (ยกเว้นทารก) อาการจะน้อยกว่าในผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้สูงอายุ

ในเด็กในบางรายอาจจะไม่มีไข้ อาจจะเป็นเพียงแค่เป็นหวัด หรือ อาการทางเดินหายใจเล็กน้อยก็ได้ ดังนั้นการระบาดของโรคที่เกี่ยวกับไวรัส เราเห็นผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาล จะเป็นส่วนที่อยู่บนภูเขาน้ำแข็งที่เหนือน้ำเท่านั้น ส่วนที่อยู่ใต้น้ำที่ไม่มีอาการยังมีอีกมาก มาตรการในการค้นหาเฝ้าระวัง จึงเป็นการยาก

ผู้ที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น และ ถ้ามีภูมิต้านทานเกิดขึ้นในประชากรเป็นจำนวนมาก (ทั้งที่เคยติดเชื้อแบบมีอาการและไม่มีอาการ) ก็จะเกิดภูมิคุ้มกันกลุ่ม การระบาดของโรคก็จะหยุดลงหรือน้อยลง แต่โรคนั้นจะยังไม่หมดไป จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น หรือระบาดตามฤดูกาล

ดังนั้นโรคปอดบวมอู่ฮั่น จำนวนผู้ติดเชื้อ จะเป็นจำนวนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ไม่รวมถึงผู้ที่มีอาการน้อย และไม่ได้รับการรักษา แต่ก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้ เช่นเดียวกัน อัตราตายของโรคนี้ ก็เป็นอัตราตายของผู้ที่อยู่เหนือภูเขาน้ำแข็ง หรือผู้ที่มีอาการมากเท่านั้น