รองนายกรัฐมนตรีและคณะฯ และเอกอัครราชทูตจากสหภาพยุโรป คณะฑูตจาก14 ประเทศ ลงเรือเยี่ยมชมการรื้อทำลายซากเรือประมงในแม่น้ำท่าจีน วันนี้เป็นการทำลายเรือ จำนวน 9 ลำ จาก 44 ลำ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร แบ่งออกเป็น 3 ประเภทกลุ่มเรือ
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ และเอกอัครราชทูตจากสหภาพยุโรป คณะฑูตจาก 14 ประเทศ รับฟังการรายงานสรุปในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ของกรมเจ้าท่า และรายงานถึงขั้นตอนการทำงานในการรื้อทำลายเรือประมง ณ บริเวณวัดช่องลม จังหวัดสมุทรสาคร
โดยหลังจากการรายงานสรุปฯ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า นำพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีและคณะฯ ลงเรือเพื่อไปเยี่ยมชมการรื้อทำลายซากเรือประมงในแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นผลมาจากที่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการสำรวจเรือชำรุด ผุพัง และซากเรือที่อยู่ในแม่น้ำลำคลอง ท่าเทียบเรือ ชายหาดเกาะต่างๆในพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล เมื่อในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคมที่ผ่านมา โดยพบซากเรือจมชำรุด ผุพัง ทั้งหมดจำนวน 861 ลำ
ในวันนี้เป็นการทำลายเรือ จำนวน 9 ลำ จาก 44 ลำ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร แบ่งออกเป็น 3 ประเภทกลุ่มเรือ ได้แก่
- เรือที่ได้รับการปลดล็อคในระบบ และเจ้าของเรือได้ยื่นขอให้รื้อทำลายเรือ จำนวน 3 ลำ
- เรือที่กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการสำรวจและได้ปิดประกาศ เพื่อให้เจ้าของเรือแสดงตัวตน แต่ไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของเรือ กรมเจ้าท่าจึงดำเนินการรื้อทำลาย โดยใช้อำนาจตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่าน้ำไทย จำนวน 5 ลำ
- เรือที่เจ้าของเรือแสดงตัวตนและยินยอมให้รื้อทำลาย จำนวน 1 ลำ
สำหรับการรื้อทำลายเรือประมง หรือเรือสนับสนุนการทำการประมง จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่จนครบทั้ง 861 ลำ เพื่อกำจัดซากเรือประมงที่อยู่นอกทะเบียนเรือไทย ป้องกันการนำซากเรือไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองเรือประมง และการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายของประเทศไทย