จังหวัดอ่างทอง ชาวบ้านตั้งชื่อว่า เมืองในหมอก แต่เป็นการประชดถนนที่มีฝุ่น เศษทราย เศษดิน จากรถบรรทุกที่สัญจร ไป-มาจนกลายเป็นมลภาวะ ที่ชาวบ้านไม่สามารถหลบหลีกได้
บริเวณถนนอ่างทอง-ป่าโมก ริมคลองชลประทาน เขตตำบลป่าโมก จ.อ่างทอง อยู่ในสภาพที่มีฝุ่นทรายฟุ้งกระจายตลอด 24 ชั่วโมง ดูจากภาพโดยเฉพาะเมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านไป-มาแบบนี้
สร้างปัญหาด้านมลภาวะให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว มานานกว่า 10 ปี ซึ่งนอกจากฝุ่นทรายที่ฟุ้งตลอดเส้นทางแล้ว ยังมีเศษทรายที่ตกหล่นจากรถและถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก
ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านเส้นทางนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก อีกทั้งหากมีฝนตกลงมาจะทำให้พื้นถนนลื่นและเกิดอุบัติเหตุได้ โดยผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บางรายต้องเอามือปิดปากปิดจมูก แม้ใส่หมวกกันน๊อกไว้เพื่อไม่ให้ฝุ่นทรายเข้าหน้า
โดยชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า ตัวเองใช้เส้นทางสายนี้เป็นประจำทุกวันต้องผจญกับฝุ่นทราย โดยเฉพาะเมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งไปมา ต้องนำหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ แต่ก็ป้องกันได้เพียงไม่มาก
แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะต้องใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางกลับบ้านและไปทำงานทั้งเช้าทั้งเย็น
ขณะที่ นาย ราเชนทร์ ถึงบุญมา ผู้ประกอบการรถบรรทุกรายหนึ่ง อ้างว่า ได้ดำเนินการทำความสะอาดถนนให้ทั้งเช้า และเย็น แต่ช่วงนี้ทำความสะอาดไม่ทันเพราะอยู่ในช่วงหน้าฝน
จากการตรวจสอบพบว่าเส้นทางนี้มีรถบรรทุกทราย วันละกว่า 100 เที่ยว ทำให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่มีประชาชนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก
แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบปล่อยปละละเลยมานาน จึงเกิดการตั้งข้อสงสัยถึงความผิดปกติว่าทำไมหน่วยงานรัฐไม่ดำเนินการกับรถบรรทุกและผู้ประกอบการที่สร้างมลภาวะ