ภ.5ยึดทรัพย์“ป๋าดอย”ฟอกเงินค้ายาผ่านเมียน้อย 6 คน

ตำรวจภาค 5 ร่วม ป.ป.ส. ขยายผลบุกค้นบ้าน ยึดทรัพย์รวมกว่า 60 ล้านบาทจากเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ หลังยึดไอซ์ 560 กก.- ยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด

วันที่ 15 ก.พ.61 กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 72/5 หมู่ 4 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของ น.ส.วิไลพร บานเย็น ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 4 ของ นายธัญเทพ โปรติ หรือ ป๋าดอย อายุ 52 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ

การบุกค้นและยึดทรัพย์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายสุชาติ เทียนชัยพนา ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ที่ถูกจับกุมตัว พร้อมไอซ์ 500 กิโลกรัม และ ยาบ้า 708,000 เม็ด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนำยาเสพติดมาส่งที่บริษัทขนส่งเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่ง ย่าน ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง

จากการสอบปากคำนายสุชาติ รับสารภาพว่า รับจ้างนำยาเสพติดส่งผ่านระบบโลจิสติกส์จาก จ.เชียงใหม่ ไปให้ลูกค้าที่ภาคใต้ และ ซัดทอดว่า นายธัญเทพ และ นายประพล  คำนุง หรือ ป๋าแดง เป็นผู้บงการ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายจับนายธัญเทพ และ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นในพื้นที่หลายจุดที่เป็นบ้านพักของนายธัญเทพ และบ้านพักของภรรยา โดยปฏิบัติการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้บุกค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด คือ หอพักธนกฤตเพลส เอลที่ 29/13 หมู่ 2 ต.ช้างเผือก ของ นางวิไลพร และ บ้านพักใน อ.หางดง

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดบ้านพร้อมที่ดิน อาคารหอพักพร้อมที่ดิน และ รถยนต์ 4 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท สำหรับนายธัญเทพ และ นายประพล เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ต.ภานุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า หากสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เชื่อว่าจะสามารถขยายผลถึงแหล่งพักและแพ็คยาเสพติดก่อนนำส่งบริษัทโลจิสติกส์ได้ เนื่องจากนายสุชาติ ผู้ต้องหารายแรกที่จับกุมได้ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร สำหรับบริษัทขนส่งเอกชน ที่รับขนส่งยาเสพติด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดในกระบวนการรับฝากพัสดุภัณฑ์ เพราะบริษัทขนส่งต้องอยู่ภายใต้กฎหมายยาเสพติดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

แต่จากการตรวจสอบนายสุชาติ ระบุว่า ได้ฝากส่งยาเสพติดผ่านบริษัทดังกล่าวมาแล้ว 4 ครั้ง โดย2ครั้งแรกฝากส่งในเดือนธ.ค.60  และ เดือน ม.ค.61 อีก 2 ครั้ง แต่ละครั้งมีจำนวนหลายสิบกล่อง แต่ปรากฏว่าเอกชนที่รับขนส่งกลับไปขอข้อมูลของผู้ฝากส่งและผู้รับปลายทาง โดยจะมีการรายงานให้ผู้บัญชาหารตำรวจภูธรภาค 5 ทราบต่อไป ขณะที่ตามกฎหมายหากปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของ ป.ป.ส. มีบทลงโทษ 3 ระดับ คือ

1.ปรับตั้งแต่ 1 – 1.5 หมื่นบาท

2.สั่งให้หยุดกิจการครั้งละไม่เกิน 15 วัน

และ 3.สั่งถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ