ขึ้นป้าย "ต้องการซื้อสินค้า เรียกแม่ค้าด้านใน"

ร้านขายของชำ ของลุงดำริ สีนันท์ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านพงกะชี หมู่ 7 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ลูกค้าและเพื่อนบ้านต่างให้ความร่วมมือ กับวิธีการ ขายของให้กับลูกค้า ที่ต้องเปลี่ยนไป แต่ทุกคนต่างเข้าใจและตระหนัก ถึงการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากการติดเชื้อโควิด-19 และไม่ต้องการเป็นผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่สำคัญอยากให้จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นพื้นที่สีขาว ปลอดจากเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ และการเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ป่วยโรคดังกล่าว ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ รณรงค์สร้างความตระหนักให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันตนเอง ครอบครัว และสังคมห่างไกล ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19ลุงดำริ เจ้าของร้านชำดังกล่าว ที่ภายในร้านขายชำ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของคนในหมู่บ้าน แต่ด้วยร้านค่อนข้างคับแคบติดกระจกมิดชิด ไม่มีช่องระบายอากาศ เชื่อว่าไม่เหมาะที่จะให้ลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน ช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 จึงนำมาตรการระยะทาง 1-2 เมตร มาใช้ในการซื้อสินค้าของลูกค้า

โดยปิดหน้าร้าน กั้นด้วยแผงเหล็ก และขึ้นป้ายข้อความ “ขอประทานโทษลูกค้าต้องการซื้อสินค้า เรียกแม่ค้าด้านใน พร้อมบริการค่ะ” ในขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่คือเพื่อนบ้าน ต่างเข้าใจ และยินดีปฏิบัติตามเมื่อลูกค้ามาถึงหน้าร้าน แจ้งความประสงค์จะซื้ออะไร แม่ค้าจะเข้าไปหยิบและส่งให้ และบริการฉีดน้ำยาล้างมือให้ทุกคน ยิ่งตอกย้ำความประทับใจ การใส่ใจ และไม่ถือว่า เป็นเรื่องยุ่งยาก

อย่างไรก็ตามจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังปลอดจากผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19หรือเป็นพื้นที่สีขาว มีบุคคลที่เดินทางจากต่างประเทศเฝ้าระวังอาการ 14 วัน จำนวน 42 ราย และประชาชนที่เดินทางจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงและขอความร่วมมือกักตัวเอง 14 วันจำนวน 985 ราย ดังนั้นพบว่าประชาชนภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ต่างตระหนักและให้ความร่วมมือป้องกันการระบาดของโรคไควิด-19 เป็นอย่างมาก