ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกค่าจ้าง ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละ 100,000 บาทต่อปี หรือเดือนละเกือบ 10,000 บาท โดยการยึดสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม ก่อนจ่ายเงินคนละ 2,000-4,000 บาท/เดือน แต่การโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท โดยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไปแล้วนั้น
นางฐานิดา อนุอัน และตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองคนพิการ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.หนองกุงศรี โดยนางไพรศรี เรือนพิศ หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า หลังชมรมฯถูกตรวจสอบ ก็ได้สมุดบัญชีกับเอทีเอ็มคืนมาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม และมีการโอนเงินค่าจ้างมาให้ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม จำนวน 27,375 บาท ต่อมาวันที่ 1 พฤศจิกายน ทางประธานชมรม กลับไลน์มาขอส่วนต่างคืนจำนวน 9,625 บาท ด้านนางฐานิดา กล่าวว่า ตัวเองยังไม่ได้รับสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มคืน โดยคณะกรรมการฯ นัดให้ไปรับคืนที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม และจะคืนเงินที่ชมรมหักไว้ประมาณ 60,000 บาท แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหาและต่อว่าเพราะเป็นคนที่ไปร้องเรียน
ขณะที่ นางราตรี คามุลทา เป็นสมาชิกอีกคนที่ถูกขอเงินส่วนต่าง 8,000 บาท คืน และถูกขู่ว่าถ้าไม่ให้คืนจะมีรถตู้สำนักงาน พมจ.กาฬสินธุ์มาจอดหน้าบ้าน สร้างความหวาดแก่นางราตรี จึงได้มาแจ้งความ เพื่อส่งหลักฐานให้เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการฯ ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ (1 พ.ย.) นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ พร้อมคณะ และตัวแทนผู้ปกครองคนพิการ 10 คน ได้นำหนังสือร้องเรียนมายื่นต่อผู้ว่าราชการจ. กาฬสินธุ์ ให้ตรวจสอบสิทธิ์ตามมาตรา 35 และ ไต่สวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยไม่มีละเว้น ซึ่งนายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ รับปากว่า จะเร่งดำเนินการพิจารณาตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน