svasdssvasds

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

ร้านกาแฟชายทุ่งที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ

ทุกวันนี้ร้านกาแฟมีมากมายให้เลือกไปชิม มีทั้งเปิดเป็นร้านตกแต่งสวยงามน่าเข้าไปนั่ง ทั้งแบบเป็นตู้ตั้งริมถนน และในปั๊มน้ำมัน แต่วันนี้ไปกันที่ร้านกาแฟชายทุ่ง ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ อากาศดี ที่สำคัญราคาไม่แพง เพราะเจ้าของร้านใจดี อยากมีร้านกาแฟแบบไม่หวังกำไร ต้องการเพียงความสุขใจมีลูกค้ามานั่งเป็นเพื่อนคุยคลายเหงาในวัยเกษียณ

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

บาริสต้าบ้านทุ่งกับร้านกาแฟที่เรียบง่าย

ร้านกาแฟที่ว่านี้มี่ชื่อว่า "แลนา เบิ่งเสือ" ตั้งอยู่ริมถนนนิตโย อุดรธานี–สกลนคร หลักกิโลเมตรที่ 20 ฝั่งขาเข้าเมืองอุดรธานี โดยเป็นร้านตกแต่งง่ายๆ ด้วยไม้ไผ่มุงด้วยหญ้าคาติดพื้น ใต้ต้นค้อขนาดใหญ่ มีเตียงไม้ไผ่ไว้ให้ลูกค้านั่งและควายที่กำลังเล็มหญ้า มีลูกค้ามานั่งรอดื่มกาแฟอยู่หน้าร้าน พบบาริสต้าบ้านทุ่งคือ นายคาเชน ชีวะพันธ์ วัย 65 ปี เจ้าของร้าน กำลังชงกาแฟแบบต่างๆ ให้ลูกค้า อย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมกับพูดคุยกับลูกค้าอย่างสนุกสนาน

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

 เจ้าของร้าน นายคาเชน ชีวะพันธ์ วัย 65 ปี บาริสต้าบ้านทุ่ง

เจาของร้านเล่าว่า พื้นเพเป็นชาวจังหวัดสงขลา แต่มาเป็นเขยเมืองอุดรธานีมา 30 ปี มีบุตรชายหญิง 2 คน ทำงานบริษัทเอกชนแห่งชนแห่งหนึ่งในภาคใต้จนอายุ 60 ปี กลับมาอยู่บ้านเฉยๆ 5 ปี รู้สึกไม่มีคุณค่า แถมยังป่วยเป็นโรคไต แต่ได้รักษาฟื้นฟูจนแข็งแรงแล้ว รู้สึกเบื่อจึงได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปตามจังหวัดต่างๆ กระทั่งมาถึงจังหวัดตาก ไปพบร้านกาแฟที่มีความเรียบง่าย และให้ความเป็นกันเองกับลูกค้า ทั้งยังขายในราคา 10 บาท จึงอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง เพราะมีที่นาอยู่แล้ว 11 ไร่ จึงขอเข้าไปเรียนรู้และฝึกฝนวิธีชงกาแฟเพื่อมาเปิดที่ทุ่งนาของตน ที่สำคัญราคาต้องไม่แพงจนเกินไป เมื่อฝึกชงกาแฟจนชำนาญ ก็ได้ซื้ออุปกรณ์มาเปิดร้านบนที่นาของตนเอง โดยขายในราคาแก้วละ 10 บาท และตั้งชื่อร้านว่า “แลนา”

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

 

ที่มาของ "แลนา เบิ่งเสือ"

เหตุผลที่ตั้งชื่อร้านว่า “แลนา เบิ่งเสือ” เนื่องจากตนเป็นคนสงขลา จึงอยากใช้ชื่อร้านที่เป็นเอกลักษณ์อย่างคำว่า แลนา ส่วนคำว่า เบิ่งเสือ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ตนเลี้ยงควายตัวเมีย 1 ตัว ตั้งชื่อว่า “นางเสือ” ส่วนขายกาแฟราคาแก้วละ 10 บาท เพราะตนไม่ได้หวังกำไร แต่ต้องการเปิดให้ตัวเองไม่เหงา และทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าได้พูดคุยกับลูกค้า มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนปั่นกาแฟช่วย และทุกคนเรียกตนว่า “พ่อ” สิ่งเหล่านี้มันทำให้มีความสุขมากกว่ารายรับที่ได้มา สำหรับการตกแต่งร้านก็ง่ายๆ หาของที่มีอยู่มาตกแต่งให้เข้ากับธรรมชาติ และที่สำคัญเครื่องชงกาแฟใช้เครื่องชงสไตล์อิตาลีโบราณเน้นความเรียบง่าย ในลักษณะใช้มือหมุน เป็นอุปกรณ์การต้มกาแฟดื่มเองที่บ้านด้วยแรงดันไอน้ำที่ร้อนกว่า 100 องศาเซลเซียส ซึ่งแตกต่างจากเครื่องชงกาแฟทั่วไปที่เป็นระบบน้ำร้อนผ่าน ทำให้กาแฟที่ได้มีความแตกต่าง คือมีกลิ่นที่หอม แต่ใช้เวลานานกว่าเครื่องชงกาแฟทั่วไป แม้ว่าจะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็คุ้มค่า

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

“นางเสือ” ควายเพศเมียที่เจ้าของร้านเลี้ยงไว้ใกล้ๆ ร้าน

เพราะกำไรไม่สำคัญเท่าความสุขที่ได้มา

เมล็ดกาแฟส่วนใหญ่จะซื้อมาจากดอยมูเซอ อ.แม่สอด จ.ตาก และเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ แต่จะขายราคาไม่แพง กาแฟสดร้อน ราคาเริ่มต้นแก้วละ 10 บาท เอสเพรสโซ่ อเมริการโน่ร้อน ลาเต้อาร์ทวาดลาย 20 บาท ส่วนกาแฟเย็น 30 บาท มอคค่า คาปูชิโน่ ลาเต้ อเมริกาโน่ นอกจากนี้ยังมีชาพม่า และขนมหวานของชาวบ้านที่มาฝากขายด้วย

“สิ่งที่ได้มากว่าเงินทองก็คือความสุขและมิตรภาพที่คนผ่านไปผ่านมาแวะพูดคุยทักทายจากแค่ที่อยู่บ้านเฉยๆ ทำให้เกิดคุณค่าในตัวเองในชีวิตหลังเกษียณอายุงานเพื่อเป็นคนแก่ที่คุณค่าและชราอย่างมีคุณภาพ”

โดยร้านกาแฟ “แลนา เบิ่งเสือ” ให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00- 16.00 น. ของทุกวัน

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

เครื่องชงสไตล์อิตาลีโบราณ

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

จิบกาแฟ "แลนา เบิ่งเสือ" กับบาริสต้าบ้านทุ่งผู้หาคุณค่าชีวิตหลังเกษียณ

related