เกิดเหตุการณ์สลดนักธุรกิจชาวรัสเซีย จมน้ำทะเลเกาะสมุยเสียชีวิต 1 ราย และเด็กน้อยชาวไทยอีก 2 คน ที่ถูกคลื่นทะเลซัดออกจากฝั่งทะเลอำเภอสิชล โชคดีที่เจ้าหน้าที่ช่วยไว้ได้ทันอย่างทุกลักทุเล หลังไม่ยอมฟังคำเตือนพายุปาบึก
นี่เป็นภาพที่โลกโซเชียลได้แชร์กันอย่างแพร่หลายเป็นภาพวินาทีช่วยชีวิต 2 หนูน้อย ที่ถูกคลื่นทะเลสูงกว่า 3 เมตร ซัดออกจากฝั่งบริเวณชายหาดหินงาม อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และลากเอาร่างออกไป โดยมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯประมาณ 5-6 คน ว่ายน้ำฝ่ากระแสคลื่นเข้าช่วยเหลือ ท่ามกลางเสียงลุ้นระทึกให้กำลังใจของญาติพี่น้องและนักท่องเที่ยว โดยหลังจากที่สามารถคว้าร่างเด็กเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังโดนคลื่นซัดถล่มอย่างหนัก จนล้มไปในกระแสเกรียวคลื่นหลายครั้ง แต่เพื่อน ๆ ได้ช่วยกันพยุงร่างเจ้าหน้าที่ ขณะกำลังพยายามแบกร่างของหนูน้อยกลับเข้าฝั่งได้อย่างทุลักทุเล โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตำรวจ สภ.บ่อผุด (เกาะสมุย) จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหน่วยกู้ภัย เข้าช่วยชีวิตนักท่องเที่ยว ที่จมน้ำขึ้นมาได้ 3 คน เป็นหญิง อายุ 47 ปี 1 ราย หญิงสาว วัยรุ่นอายุ 17 ปี 1 ราย เด็กชาย อายุ 13 ปี 1 ราย ทั้งหมดเป็นแม่ลูกกัน มีสัญชาติรัสเซีย นำขึ้นฝั่งบนชายหาดปลอดภัย ส่วน นายอเล็กซานเดอร์ เซนเวนเซ่นท์ อายุ 56 ปี สัญชาติรัสเซีย พ่อและสามีของผู้รอดชีวิต ถูกคลื่นซัดศีรษะไปกระแทกโขดหินจมน้ำเสียชีวิต
ในช่วงพลบค่ำที่ผ่านมา มีการส่งภาพถ่ายท้องทะเลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งท้องฟ้ามีสีแดง อมเหลือง ซึ่งหลายคนที่เคยเห็นท้องฟ้าก่อนพายุเข้าแหลมตะลุมพุกเมื่อปี 2505 ต่างวิพากษ์วิจารณ์เป็นเสียงเดียวกันว่า มีความคล้ายคลึงกันมาก ซึ่งภาพท้องฟ้าดังกล่าว เกิดในช่วงที่พายุโซนร้อน “ปาบึก” กำลังจะขึ้นฝั่งที่จังหวัดในภาคใต้ของไทยในวันที่ 4 มกราคมนี้