ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากกรณีนายอานนท์ รถทอง หรือป๋านนท์ อายุ 59 ปี เสี่ยเจ้าของล้งทุเรียน ในพื้นที่ จ.ชุมพร ได้ประกาศผ่านโลกโซเชียลหาสามีให้ลูกสาว ปรากฎว่ามีชายหนุ่มและไม่หนุ่มจำนวนมาก ต่างสนใจสมัครที่จะมาเป็นลูกเขยจำนวนหลายหมื่นคน แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้ประกาศขอยกเลิกให้เป็นโมฆะ และขอโทษสังคม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว วันนี้ (7 มี.ค.62) นายอานนท์ เปิดเผยว่า วันนี้ขอให้ข่าวผ่านทางโทรศัพท์ และเป็นวันสุดท้าย เนื่องจากเหนื่อยและอิดโรยมาก หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกงานคัดเลือกลูกเขย ตนเองรู้สึกสบายใจขึ้นและโล่งอก พูดง่ายๆว่าตนเองยอมโดนประชาชนด่าวันนี้ ดีกว่าไปทำให้เกิดเรื่องที่อาจจะไม่ดีในอนาคตในวันข้างหน้า และเป็นการป้องกันความสูญเสีย ความเสียใจที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งปัญหาด้านอื่นที่คาดไม่ถึง การตัดสินใจเมื่อวานนี้ จะไม่ทำให้ใครเกิดความเสียหาย ทั้งที่ใจจริงๆตนเองอยากจะเลือกลูกเขยที่ดีสำหรับลูกสาวของตนเอง และตั้งใจจะมอบเงิน 10 ล้านบาท เพื่อให้ลูกสาวไปเริ่มชีวิตคู่ นั่นคือความตั้งใจจริง ยืนยันว่าเป็นความตั้งใจจริงๆ ไม่ได้โกหกประชาชนเพื่อโปรโมทแผงทุเรียนหรืออยากดัง เพราะตนเองตั้งใจโพสต์ในเพจของคนที่ทำธุรกิจแผงทุเรียน และเซียนพระเท่านั้น
“การมอบเงินให้กับลูกสาว และว่าที่ลูกเขยในอนาคต ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง จนถึงเวลานี้ ก็พร้อมที่จะมอบให้ ถ้ามีลูกเขย เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มเพื่อนๆจะส่งลูกชายเข้ามาทาบทามประมาณ 10-20 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีมาทาบทามแล้ว แต่เมื่อมีคนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจในวันแรกที่ข่าวออกไป ผมก็ยังตั้งใจว่าจะได้มีโอกาสคัดเลือกคนเหล่านั้น แต่วันที่ 2 กลับมีคนให้ความสนใจร่วมทะลุแสนกว่าคน รวมทั้งมีชาวต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง ก็เลยต้องมาคิดอย่างรอบคอบว่า จะมีผลดีหรือผลเสีย ที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆมากกว่ากัน เนื่องจากคนที่มาคัดเลือกนั้น มีจำนวนมาก จึงได้ปรึกษาความพร้อมกับครอบครัว โดยทุกคนเห็นว่าสถานที่รองรับคนที่เดินทางมานั้น ไม่สามารถเป็นไปได้ ดังนั้นผมเองเป็นลูกผู้ชายพอ จึงได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกและยอมให้คนด่า ดีกว่าเกิดเหตุกับคนที่เดินทางมาในวันนั้น”
นายอานนท์ กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่มีทนายความออกมาระบุว่า การยกเลิกคัดเลือกลูกเขย อาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบออนไลน์ว่า ถ้าผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ในความรู้สึกของตนเองไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร เพราะไม่ได้คิดหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด
ด้านนายอัธยา วิริยะวัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลหลังสวน หุ้นส่วนเจ้าของตลาดเกษตรอวยชัย 3 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เปิดเผยว่า รู้จักกับป๋านนท์ มานานกว่า 30 ปี ป๋านนท์ มาลงทุนด้วยการซื้อที่ดินเพื่อสร้างล้งทุเรียนหลายสิบล้านบาท และค้าขายทุเรียนทั้งรับซื้อและส่งออกไปยังตลาดในกรุงทพฯ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศมานาน มีลูกค้าชาวสวนที่ค้าขายกับป๋านนท์มากมาย เป็นคนที่พูดจริง ทำจริง มีความเป็นคนใจนักเลง รักสนุก อารมณ์ดี เชื่อว่าที่ลงประกาศในเฟซบุ๊คนั้น คงต้องการให้เพื่อนเกลอหรือเพื่อนรัก ที่มีลูกชายที่อยู่ในวงการทุเรียนเสนอตัวมาแต่งงานกับลูกสาวตามประสาคนใต้ที่มักชักจูงลูกๆของเพื่อนรักมาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน และเชื่อว่าตั้งใจมอบเงิน 10 ล้านบาทและทรัพย์สินให้แก่ลูกสาวและลูกเขยจริง
"ในความคิดเห็นของผมนั้น จริงๆไม่น่าจะยกเลิก แต่น่าให้มาคัดเลือกที่ตลาดเกษตรอวยชัย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่มีความกว้างขวาง รองรับคนได้หลายหมื่นคน รวมถึงในฐานะเจ้าของตลาดอวยชัย 3 จะจัดเลี้ยงข้าวแก่ผู้ที่มาสมัครเป็นลูกเขยอีกด้วย เสียดายที่ป๋านนท์ มาประกาศยกเลิกเสียก่อน ผมเองก็เตรียมให้ลูกชายคนสุดท้องไปสมัครเป็นลูกเขยด้วย ถ้าป๋านนท์และลูกสาวเลือก ก็ยังเตรียมสมบัตินับสิบล้านบาทไว้ประชันกับป๋านนท์ในวันแต่งงานของลูกสาวป๋านนท์กับลูกชายผมด้วย ถ้ามีการรับสมัครคัดเลือกลูกเขยเกิดขึ้น” นายอัธยา หรือ นายกเขียว กล่าวพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ