นับถอยหลัง “คดีเสือดำ” ความเชื่อ-ของขลัง ที่ต้องแลกมาด้วยความตาย!

อีกไม่นานคดีที่ทุกคนต่างจับตาก็จะถึงวันพิพากษา กับคดีเสือดำแห่งทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย กับพวกอีก 4 คน ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจบุรี พร้อมของกลางที่ทำเอาสะเทือนใจไปทั้งประเทศนั่นคือ ซากเสือดำที่ถูกชำแหละและถลกหนัง รวมถึงซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง และอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษากันในวันที่ 19 มี.ค.นี้

ความโหดร้ายที่แฝงมากับความเชื่อ มีทั้งรูปแบบของการกินอวัยวะ และการนำอวัยวะไปทำเป็นเครื่องรางของขลัง ย้อนกลับไปถึงตอนที่จับกุมตัว นายเปรมชัย ได้ไม่นานนัก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยกล่าวว่า “กลุ่มของ นายเปรมชัย ไม่ได้มาเพื่อกินหางหรือเนื้อเสือดำอย่างเดียว แต่มีเป้าหมายหลักคือต้องการกิน อวัยวะเพศเสือดำ ส่วนเนื้อของไก่ฟ้าหลังเทา คนกลุ่มนี้แทบจะไม่สนใจ”

ความเชื่อเรื่องการบริโภคอวัยวะเพศของเสือ เป็นความเชื่อที่ฝังหัวในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ทรงพลังไม่ต่างกับสัตว์นักล่า คนจำนวนมากยังเชื่อว่าคุณสมบัติของมันเหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน จนเป็นหนึ่งในเมนูพิสดารที่ชายอายุมากโปรดปรานหามาบริโภค ทั้งที่ตามธรรมชาติของเสือแล้วไม่ได้ใช้เวลาร่วมเพศนานอย่างที่คนคิด ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอย่างที่คิด และไม่ได้คึกคักหรือมีอารมณ์ทางเพศบ่อยๆ อย่างที่คิด ที่ถ้าหากลองไปศึกษาพฤติกรรมทางเพศของเสือดีๆ แล้วอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดก็ได้

อีกความเชื่อที่นำไปสู่ความตายของ เสือดำ นั่นคือการนำอวัยวะบางส่วนไปทำเครื่องรางของขลัง สมัยโบราณคนบางกลุ่มฝังใจว่า ถ้าหากอยากมีอำนาจ มีบารมี ต้องมีของขลังบางอย่างอยู่ในครอบครอง เหมือนกับเสือที่ดุร้าย “ถ้าจะดุ ต้องดุให้เหมือนเสือ ถึงอยู่ในกรงคนยังกลัว” ทั้งที่เสือดำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความงมงายนี้ด้วยเลย แต่กลับต้องเปลี่ยนสถานะจาก ผู้ล่า เป็น ผู้ถูกล่า เพื่อนำ หนังหน้าผากเสือ ไปลงยันต์ม้วนทำตะกรุด สร้างความมีอำนาจ ความน่าเกรงขาม เอา เขี้ยวเสือ ไปปลุกเสกแขวนห้อยคอ เป็นของขลังให้คงกระพันชาตรี ทั้งมนุษย์และภูตผีต้องยำเกรง

เท่านั้นยังไม่พอกระตุก หนวดเสือ พกไว้ให้น่าเกรงขาม หรือนำไปปรุงเป็นยาสั่งพิษ และยิ่งเป็น หนังเสือดำ ด้วยแล้วคนโบราณเชื่อว่ามีฤทธิ์เดชมากมายนัก ยิ่งได้เกจิอาจารย์ที่มีตบะแก่กล้าลงอาคม ลงอักขระให้ ผู้ที่ครอบครองหนังเสือดำจะมีความแคล้วคลาด ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้าย มีคุณเรื่องไพรีพินาศ เสริมบารมี อำนาจให้ใหญ่โตขึ้น เสริมเมตตามหานิยม หรือกระทั่ง รูปลักษณ์ของเสือ ก็ยังไม่เว้นแม้จะไม่ได้ฆ่า แต่ก็มีการนำรูปลักษณ์ของเสือ มาทำเป็นยันต์บ้าง สักลงอาคมบนตัวบ้าง นำรูปเสือติดไว้ที่ทางสามแพร่งเพื่อไล่ผีปีศาจบ้าง

ความเชื่อคร่ำครึที่ยังฝังรากลึกอยู่ในคนบางกลุ่ม กับการเชื่อว่า เสือดำ เป็นเจ้าป่า เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ นำมาซึ่งหายนะ สร้างให้มนุษย์กลายเป็นมัจจุราช ส่งมอบความตายให้กับสัตว์ป่าที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของความโหดร้าย เพราะความอยากได้ อยากมีที่ไม่สิ้นสุด แล้วมันจะคุ้มกันหรือที่ต้องใช้ชีวิตของสัตว์ เพื่อแลกกับความงมงาย จากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับถอยหลังวันพิพากษา “คดีเสือดำ” เปิด 6 ข้อหา “เปรมชัย กรรณสูต”

“หัวหน้าวิเชียร” บุรุษผู้พิทักษ์ป่า สู่การนับถอยหลังวันพิพากษา “คดีเสือดำ”