7 พฤติกรรมการ “ฆ่า” ต้องโทษหนัก ถึงประหารชีวิต!

หลังจากที่ กรมราชทัณฑ์ ประเดิมประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาด รายแรกในรอบ 9 ปีของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ บังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงผู้ตาย 24 แผย จนมีการตัดสินให้ประหารชีวิตในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม>> กลับมาแล้ว…! ประหารชีวิต ประเดิมรายแรกในรอบ 9 ปี

ล่าสุดเฟซบุ๊กเฟจ สำนักงานกิจการยุติธรรม ให้โพสต์ข้อมูลน่าสนใจ ถึงหลักการลงโทษประหารชีวิตว่าพฤติกรรมที่เข้าข่ายมีอะไรบ้าง โดยระบุว่า การลงโทษประหารชีวิตนั้น ไม่ใช่ลงโทษเพื่อการแก้แค้นทดแทน แต่ต้องเป็นการลงโทษเพื่อแก้ไขและเยียวยา ทั้งตัวผู้กระทำความผิด และเหยื่อ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคม

7 พฤติกรรมการฆ่า ที่ต้องรับโทษประหารชีวิต

1. ฆ่าพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด ที่สืบสายโลหิตโดยตรง
2. ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำตามหน้าที่
3. ฆ่าโดยทรมาร หรือ ทารุณโหดร้าย
4. ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ที่ได้ทำตามหน้าที่ หรือฆ่าบุคคลที่กำลังจะช่วยเหลือ หรือได้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน
5. ฆ่าเพื่อเอา หรือเอไว้ซึ่งผลประโยชน์ หรือเพื่อปกปิด หรือหลีกเลี่ยงให้ตนเองพ้นความผิด
6. ฆ่าเพื่อเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด
7. ฆ่าโดยไตร่ตรอง คิด ทบทวน วางแผน ก่อนจะลงมือฆ่า เช่น จ้างวานฆ่า

สำหรับประเทศไทย นับตั้งปี พ.ศ. 2478 จนถึงปัจจุบัน มีการบังคับโทษประหารชีวิตมาแล้ว 325 ราย ซึ่งรายสุดท้ายประหารชีวิตด้วยการฉีดยาสารพิษ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ดังนั้นนักโทษชายธีรศักดิ์ อายุ 26 ปี ในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์รายนี้จึงเป็นนักโทษเด็ดขาดรายแรกในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง>> แอมเนสตี้ ประนามไทยหลังละเมิดพันธกิจ ลงโทษประหารชีวิตนักโทษในรอบ 9 ปี