ตำรวจกองปราบปรามจับ"พันธ์ศักดิ์ มงคลศิลป์" ฉายานักฆ่าภาคตะวันออกผู้ต้องหายิงสองผัวเมียปั๊มน้ำมันจังหวัดสระแก้วได้แล้ว หลังหนีไปกบดานที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง สารภาพก่อเหตุเพราะต้องการทดแทนบุญคุณ"เสี่ยท๊ง"ที่จ้างวานให้ยิงล้างแค้น
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พร้อมตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษกองปราบปราม เข้าจับตัวนายพันธ์ศักดิ์ มงคลศิลป์ อายุ 62 ปี และนางธนพร สุขโขจัย อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง หลังนายพันธ์ศักดิ์ ซึ่งอดีตเคยเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ก่อเหตุใช้ปืนยิง นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง จ.สระแก้ว เสียชีวิต และยิงนางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยานายประชา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา
คดีนี้หลังเกิดเหตุตำรวจสภ.เมืองสระแก้ว ได้สอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะขออนุมัติศาลจังหวัดสระแก้วออกหมายจับนายพันธ์ศักดิ์ มงคลศิลป์ พร้อมพวก ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมจัดชุดสืบสวนไล่ล่าตัวนายพันธ์ศักดิ์ แต่นายพันธ์ศักดิ์ อาศัยความเป็นตำรวจเก่า ทำให้รู้เส้นทางหลบหนี จนในที่สุดตำรวจกองปราบปรามจึงตามแกะรอยจนพบว่า นายพันธ์ศักดิ์ และภรรยา หนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ตำรวจกองปราบปราม จึงใช้กำลังชุดปฎิบัติการพิเศษวางแผนเข้าจับตัวนายพันธ์ศักดิ์ ได้พร้อมภรรยาเมื่อช่วงบ่ายวันนี้
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทน ผบก.ป. กล่าวว่าจากการสอบสวนปากคำนายพันธ์ศักดิ์ สารภาพว่าเป็นคนรับงานยิงสองสามีภรรยาเจ้าของปั๊มน้ำมันจริง เนื่องจากต้องการทดแทนบุญคุณนายดำรงค์ฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ หรือ เสี่ยท้ง อดีตเจ้าของปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ที่เคยช่วยเหลือเรื่องเงินทองในสมัยรับราชการเป็นตำรวจเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา เบื้องต้นนายพันธ์ศักดิ์ ยังให้การปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าสองสามีภรรยา โดยอ้างว่าเป็นเพียงคนจัดหาอาวุธปืนให้มือปืนเท่านั้น ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายพันธ์ศักดิ์
รักษาราชการแทน ผบก.ป.กล่าวอีกว่าขณะเข้าจับตัวนายพันธ์ศักดิ์ ยังมีอาวุธปืนติดตัว โดยตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษต้องใช้กำลังปิดล้อมสถานที่ และเจรจาให้นายพันธ์ศักดิ์ มอบตัวซึ่งหลังจากเจรจาไปสักระยะ นายพันธ์ศักดิ์ จึงตัดสินใจมอบตัวและไม่ต่อสู้เจ้าหน้าที่แต่อย่างใด โดยหลังจากสอบสวนปากคำเสร็จตำรวจกองปราบปราม จะประสานตำรวจภูธรสระแก้ว ให้มารับตัวนายพันธ์ศักดิ์ ไปดำเนินคดี ที่สภ.เมืองสระแก้ว
สำหรับประวัติของนายพันธ์ศักดิ์ อดีตเคยเป็นสารวัตรสืบสวนสภ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และเป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจในขณะนั้น และเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ เมื่อปี 2537 ก่อนที่ศาลจะพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต แต่นายพันธ์ศักดิ์ ติดคุกจริงเพียง 18 ก็พ้นโทษ ก่อนจะมาประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ในจังหวัดสระแก้วและปราจีนบุรี แต่เนื่องจากทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ นายพันธ์ศักดิ์ จึงหวนกลับเข้าสู่วงการนักฆ่า ด้วยกาตั้งแก๊งอุ้มฆ่านายชัยชนะ หมายงาน หรือเสี่ยอ้วน นักธุรกิจในตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หรือที่คนในพื้นที่ตั้งฉายาว่าเป็น"เทพเจ้าสองแผ่นดิน" คดีนี้ทำให้เห็นถึงความเหี้ยมโหดของพันธ์ศักดิ์ อีกครั้งเพราะการอุ้มเสี่ยอ้วน เป็นการอุ้มไปฆ่าแล้วนำศพเผานั่งยางป่ายูคาลิปตัส บ้านคลองมะเดื่อ หมู่ที่ 8 ตำบลท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลังชุดสืบสวนฝีมือดีออกล่าตัวพันธ์ศักดิ์ ได้พร้อมสมุน กลายเป็นข่าวดังที่ทำใหคนได้เห็นถึงความเหี้ยมโหดของอดีตนายตำรวจที่ชื่อพันธ์ศัดิ์ ที่หวนกลับคืนสู่วงการมือปืนและอุ้มฆ่าอีกกครั้งทั้งที่เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน คดีนี้หลายคนไม่คาดคิดว่าสุดท้ายแล้วพันธ์ศักดิ์ ที่ได้ประกันตัวในชั้นศาลหลบหนีไม่มาฝังคำพิพากษาของศาลจังหวัดสระแก้ว เมื่อปี 2558 ซึ่งคดีนี้ศาลพิพากษาประหารชีวิตพันธ์ศักดิ์ มงคลศิลป์ และออกหมายจับนายพันธ์ศักดิ์ มารับโทษตามกฎหมาย
หลังจากนั้นชื่อของนายพันธ์ศักดิ์ ก็เงียบหายไปจนกระทั้งเขากลับมาก่อเหตุฆ่าอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา จึงทำให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยเร่งติดตามตัวนายพันธ์ศักดิ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วจนกระทั้งตำรวจกองปราบปรามตามจับตัวนายพันธ์ศักดิ์ ได้ในวันนี้