svasdssvasds

เมื่ออเมริกาเอาคืนกองทัพญี่ปุ่นใน MIDWAY

เมื่ออเมริกาเอาคืนกองทัพญี่ปุ่นใน MIDWAY

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

“we need to throw a punch so they know what it feels like to be it” (เราต้องสวนกลับไปบ้าง เพื่อให้มันได้รู้รสชาติ) “Midway” เล่าถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศระหว่าง กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาและกองทัพเรือญี่ปุ่น ที่เรียกกันว่า “ยุทธนาวีมิดเวย์” เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์กองทัพเรือญี่ปุ่นเข้าโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นฐานทัพเรือสหรัฐฯ ทำให้ได้รับความเสียหาย มีทหารและพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นั้นถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ  หลังจากนั้นญี่ปุ่นต้องการจะบุกหมู่เกาะมิดเวย์ของสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯต้องวางแผนและหาวิธีเอาชนะกองทัพเรือญี่ปุ่นให้ได้ จึงต้องพึ่งความเก่งกล้าสามารถและความกล้าหาญของเหล่าทหารเรือสหรัฐฯ

“Midway” เป็นผลงานการกำกับล่าสุดของ โรแลนด์ เอมเมอริช ผู้กำกับหนังที่มีผลงานแนวหายนะอย่าง “The day after tomorrow” “ID4” และ “2012”

“Midway” เป็นหนังสงครามที่มีปัญหาในการเล่าเรื่องอยู่พอสมควร ในแง่ของบทที่ดูไม่น่าสนใจ บทพูดของตัวละครบางตัวดูไม่มีเหตุมีผล ดูเชย และตัวละครเยอะมากจนทำให้บทไม่สมดุลกัน ฉากแอ็คชั่นที่ใส่มาเยอะแต่ก็ไม่ได้ชวนให้น่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่ ทำให้ผู้ชม รวมถึงผู้เขียนเอง อาจจะไม่อินกับหนังเรื่องนี้มากนัก ว่ากันง่ายๆ Midway อาจจะถูกใจคอหนังที่ดูแล้วไม่คิดอะไรมาก เน้นฉากแอ็คชั่นที่อลังการ เทคนิคพิเศษที่แพรวพราวเท่านั้นก็เพียงพอ

“Midway” น่าจะเป็นหนังที่ผู้เขียนชอบน้อยที่สุดในบรรดาหนังของโรแลนด์ เอมเมอริช ก็เป็นได้ แต่ผลงานก่อนหน้านี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมอะไรนัก แต่อย่างน้อยยังทำให้คนดูรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และมีอารมณ์ขันอยู่บ้าง อย่าง “ID4” ทำให้คนดูตื่นเต้นและตั้งคำถามว่า จริงๆแล้วเอเลี่ยนมีอยู่จริงหรือไม่  “2012” หนังที่ทำให้เราหวาดกลัวภัยพิบัติตามคำทำนายของชนเผ่ามายา จนเกิดเป็นกระแสไปทั่วโลก หรือ “White House down” หนังแอ็คชั่นทำเนียบขาวถูกถล่มที่ดูสนุกและย่อยง่าย

ผู้เขียนมองว่า การทำหนังสงครามในปัจจุบัน อาจจะไม่ง่ายนัก ถ้าเทียบกับยุคก่อนหน้านี้ เนื่องจากหนังสงครามในปัจจุบันมีการนำเสนอเรื่องราวที่แปลกใหม่มากขึ้น อย่างเช่น “Saving Private Ryan” ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่นำเสนอฉากสงครามที่ดูสมจริง และให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของทหาร หรือ “Dunkirk” ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน เล่าเรื่องทหารอังกฤษและฝรั่งเศสที่กำลังอพยพหนีออกจากหาดดันเคิร์ก เพื่อให้รอดจากการโจมตีทางอากาศจากเยอรมัน โดยเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนบก บนเรือ และท้องฟ้า รวมทั้งในหนังมีบทพูดน้อยมาก แต่สามารถดำเนินเรื่องได้อย่างน่าตื่นเต้น

ในยุคสมัยนี้ ถ้าผู้สร้างหนังคิดจะทำหนังสงครามขึ้นมา อาจจะต้องทำการบ้านหนักหน่อย เพราะคนดูหนังสงครามในยุคนี้ มีแค่ฉากแอ็คชั่นอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ยังต้องมีการดำเนินเรื่องที่แปลกใหม่ แปลกตา และเข้มข้นอีกด้วย

related