ขยะ ปัญหาใหญ่ที่หลายเมืองทั่วโลกกำลังต่อสู้ด้วยเทคโนโลยี

โลกกำลังเผชิญปัญหาขยะที่ดูเหมือนจะไม่มีทางออก แต่ละปีมีขยะถูกทิ้งจากเมืองใหญ่ๆทั่วโลกราว 2 พันล้านตัน ในขณะที่จำนวนประชากรเมืองเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ปริมาณขยะมากขึ้นไปด้วย หลายเมืองหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีที่จะช่วยจัดการขยะ จนอุตสาหกรรมการจัดการขยะทั่วโลกกำลังขยายตัว คาดว่าจะถึง 5.3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 16 ล้านล้านบาทในปี 2025

กรุงโคเปนเฮเกนของประเทศเดนมาร์ก เพิ่งเปิดโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะชื่อว่า Amager Bakke หรือ Copenhill เป็นสถาปัตยกรรมรูปร่างแปลกตาที่มีสโลปสกีบนหลังคา โรงงานแห่งนี้เผาขยะเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าแทนการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ละปีสามารถเปลี่ยนขยะ 450,000 ตันให้เป็นไฟฟ้าส่งไปยัง 30,000 หลังคาเรือน และให้ความอบอุ่นอีก 72,000 หลังคาเรือน และถึงแม้ว่าการเผาผลาญขยะจะยังผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่โคเปนฮาเกนมีแผนที่จะติดตั้งระบบดักจับคาร์บอนขากการเผาขยะนี้ และจะหาทางนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์

นายกเทศมนตรีกรุงโคเปนเฮเกน แฟรงค์ เจนเซน ระบุว่าการเผาทำลายขยะอย่างมีประสิทธิภาพนี้ ผลิตพลังงานที่สามารถให้ความอบอุ่นอาคารบ้านเรือนในเมืองได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และกระบวนการนี้ช่วยกำจัดมลพิษจากการเผาถ่านหิน น้ำมัน และปิโตรเลียมด้วย และจะช่วยให้เมืองหลวงของเดนมาร์กสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะกลายเป็นเมืองแรกของโลกที่ปลอดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (carbon neutral) ได้ภายในปี 2025

ไม่ใช่โคเปนเฮเกนเท่านั้น เมืองอย่างเสินเจิ้นของจีน ฮานอยของเวียดนาม หรือแอดดิสอบาบาของเอธิโอเปีย ก็กำลังอยู่ในช่วงทดลองทำโรงงานผลิตพลังงานจากขยะเช่นกัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเทคโนโลยีนี้มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ การที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีนี้ เมือง ๆ นั้นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานและระบบจัดเก็บขยะที่ดี

อย่างไรก็ตาม มีหลายเมืองที่พยายามใช้เทคโนโลยีหรือปรับปรุงระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการจัดการปัญหาขยะ การใช้ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติในการแยกขยะรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณขยะที่จะต้องทิ้ง อย่างสิงคโปร์หรือกรุงโซลของเกาหลีใต้ที่มีการติดตั้งถังขยะพลังงานแสงอาทิตย์ตามท้องถนน แต่ละถังจะมีระบบบีบอัดขยะเพื่อให้รองรับขยะได้มากขึ้น เมื่อถังขยะเต็มก็จะส่งสัญญาณไปยังแผนกจัดเก็บขยะ หรือในกรุงออสโลประเทศนอร์เวย์ที่ให้ประชาชนแยกขยะแล้วใส่ถุงขยะสีตามประเภท รถเก็บขยะจะมาเก็บรวมหมดทุกชนิดแล้วนำส่งแยกตามขั้นตอยต่อไป กรุงออสโลระบุว่าโครงการนี้ นอกจากจะทำให้คนตื่นตัวเรื่องแยกขยะ ยังสามารถเพิ่มปริมาณการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วย