หลายคนไม่รู้ว่าความคิดมีผลกับชีวิตของเรามากแค่ไหน ผู้คนมากมายพยายามเลิกจมอยู่กับความเศร้า, เลิกเล่นเกม, เลิกเล่นการพนัน เลิกช้อปปิ้ง เลิกดื่มสุรา เลิกเสพยา ฯลฯ ด้วยตนเอง นอกจากการพบแพทย์การใช้วิถีแห่งธรรมชาติ ก็ช่วยฟื้นฟูจาก โรคพฤติกรรมเสพติด เหล่านี้ได้เช่นกัน
การไปแพทย์เพื่อรับการรักษาโรคพฤติกรรมเสพติด ด้วยวิธีการทานยาเพื่อปรับสมดุลการหลั่งสารเคมีบางอย่างที่ผิดปกติในระบบสมองตรงส่วนที่เรียกว่า Serotonin เซโรโทนิน ไม่ให้มีมากไป และ น้อยเกิน ก็กลับไม่ค่อยเห็นผล เท่าที่ควร วิถีแห่งธรรมชาติที่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายและจิตใจ ซึ่งการจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเองไม่ได้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่น การใช้ความพยายาม การใช้กำลังความสามารถทางด้านร่างกาย ( Body) ของตนเองเท่านั้น
แต่เป็นเรื่องของจิตใจ (Soul) เป็นสำคัญที่ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงก่อน เนื่องจากองค์กรประกอบมนุษย์ส่วนของ Soul หรือ จิตใจ เป็นตัวเชื่อมต่อกับอารมณ์, ความคิด, ความประสงค์, การตัดสินใจ บางคนจมอยู่กับความคิดไม่ถูกต้อง ความคิดแง่ลบ ความคิดผิดๆ ความคิดที่หวาดกลัว ความคิดที่เศร้าหมอง ก็เลือกแสดงออกมาด้วยการไปใช้ชีวิตอยู่กับการดื่มเหล้า เล่นเกม เล่นการพนัน ช้อปปิ้ง เนื่องจากทำแล้วมีความสุขช่วยคลายความเศร้า ความเหงา เมื่อทำเป็นประจำทุกๆ วัน บ่อย ๆ สิ่งนี้ก็กลับกลายเป็นการเสพติดที่เรียกกันว่า โรคพฤติกรรมเสพติด"
วิธีการบำบัดรักษาจึงต้องมุ่งตรงมาที่การแก้ไขจิตใจเพื่อให้ได้รับการเปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดใหม่ เราอาจเรียกสิ่งนี้ให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า “Mind-Body effect” คือความคิดมีพลังอย่างมากในการส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือ พฤติกรรมที่แสดงออกมาให้เห็นทางภายนอก
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ปัจจุบันมีศูนย์บำบัดสุขภาพที่ใช้การฟื้นบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ ปรับสมดุลทั้งใจและกาย เดอะ บีคีพเปอร์ เฮ้าส์ (Beekeeper House) เป็นศูนย์บำบัดสุขภาพแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคุณโรเบิร์ต คอมมอนส์ เป็นคนริเริ่ม และยังได้ร่วมมือกับ เดอะ วอร์ม (The Warmth) ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพชั้นนำของจังหวัด ศูนย์แห่งนี้จะดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคพฤติกรรมเสพติดด้วยแนวทางการรักษาแบบผสมผสานระหว่างศาสนตร์จิตวิทยาปรัชญาตะวันออกและจิตวิทยาร่วมสมัยเพื่อรักษาอาการเสพติดและปัญหาพฤติกรรมอื่นๆ
สำหรับระยะเวลาในการบำบัดอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน หรือ 90 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่จะก่อให้เกิดการหล่อหลอมเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ที่ถูกต้องแทนความคิดที่ผิดๆ และเมื่อเกิดความคิดใหม่ก็จะนำไปสู่พฤติกรรมที่ดี ถูกต้อง รวมไปถึงการออกไปในชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยไม่ต้องกลับไปเสพติดพฤติกรรมแบบเดิมๆ ที่ไม่ถูกต้องเมื่อต้องเผชิญกับปัญหา และ สภาพแวดล้อม อะไรก็ตามที่เข้าล่อลวงจิตใจให้ต้องกลับไปพึ่งสิ่งเสพติด เช่น เหล้า, การพนัน, เกม ที่คิดว่าจะช่วยให้เกิดความสุขที่แท้จริง
โปรแกรมการบำบัดรักษาส่วนนึงจะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการหยิบยก Lifestyle ของแต่ละคนมาช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วย เช่น
1.คลาสโยคะที่กำหนดรูปแบบเองได้ เหมาะกับคนชอบและไม่ชอบออกกำลังกาย คลาสนี้จะมาช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็งแรงพร้อมมาปรับความคิดแทนที่จะไปหมกมุ่นเรื่องอื่นก็ให้หันมาโฟกัสเรื่องการออกกำลังกายแทน
2.Tibetan Bowl Sound Bath, Crystal Bowl Bath เป็นศาสตร์ของการใช้เสียงมาบำบัดคลื่นของสมองและจิตใจ อารมณ์ ภายในให้เกิดความนิ่ง สงบลง เป็นหลักคิดเหมือนการใช้ดนตรีบำบัดรักษา
3. Meditation Class การทำสมาธิ เพื่อช่วยให้เกิดการจดจ่อไปยังความคิดที่ถูกต้อง คิดให้เป็นและมีความสุขให้เป็น ไม่ใช่ว่าเมื่อสภาพแวดล้อม สังคมมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เราต้องมีความคิดที่ย่ำแย่ และ ไม่มีความสุขไปด้วย
4.โภชนการบำบัด เพื่อให้การเกิดปรับความคิดในการรักตัวเองให้เป็น ผ่านการดูแลตนเองในการเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ