บันทึกหมูป่า เมื่อพลังใจและการเสียสละจากทั่วโลกมุ่งสู่ ถ้ำหลวง เชียงราย

กว่า 18 วันของภารกิจการค้นหาและช่วยชีวิต 13 หมูป่าอะคาเดมี่ ที่พลัดเข้าไปติดค้างในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เต็มไปด้วยปรากฎการณ์มากมายหลากหลายที่เกิดขึ้น หากจะนับเรื่อง ที่สุด จากเหตุการณ์นี้ คงมีมากมายหลายเหตุ ที่ถือเป็น ที่สุด และหนึ่งในนั้นคือ การเดินทางมารวมตัวกันของนักดำน้ำระดับโลกนับสิบคน ที่อาสาเดินทางมาช่วยค้นหา กู้ภัย นำพาทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวงอย่างปลอดภัย

ให้หลังเรื่องดังกล่าวปรากฎเป็นข่าวแพร่สะพัดออกไปไม่นาน ก็มีทีมนักดำน้ำเอกชนจากหลากหลายประเทศแจ้งความประสงค์จะเข้าให้ความช่วยเหลือในภารกิจนี้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ทีมกู้ภัยเวียงจันทน์ 1623 จากประเทศลาว ทีมกู้ภัยจากประเทศฟิลิปปินส์ ทีมนักดำน้ำจากประเทศจีน นักดำน้ำจากออสเตรเลีย นักดำน้ำจากประเทศเดนมาร์ก นักดำน้ำจากเบลเยี่ยม และทีมนักดำน้ำจากประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะทีมจากประเทศอังกฤษ ส่งมือพระกาฬระดับโลกมาช่วยถึง 10 คน ตามรายชื่อนี้

1. Robert Harper

2. Richard Stanton

3. John Volamthen

4. Joshua Bratchley

5. Gary Mitchell

6. Michael Clayton

7. Connorstuart Roe

8. Christopher Jewell

9. Jason Mallinson

10. Martin Ellis

ทั้งหมด ทยอยเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านการสนับสนุนของสายการบินไทย และ สายการบินไทยสไมล์ ในการนำส่งถึงจุดหมายเพื่อปฏิบัติภารกิจ เกือบทั้งหมดออกเดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ก็มีบางท่านที่ออกสตาร์ทจากประเทศอื่นแล้วมุ่งหน้ามาประเทศไทย เช่น กรุงโคเปนเฮเกน จากเดนมาร์ก กรุงเมลเบิร์น จากออสเตรเลีย ซึ่งนับเป็นการปฏิบัติภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา การเดินทางของท่านเหล่านี้ จึงถึงจุดหมายปลายทางที่ จ.เชียงราย ในรูปแบบการเดินทางต่อเนื่อง ลงเครื่องกรุงเทพ ขึ้นเครื่องบางกอกแอร์เวย์ และ ไทยสไมล์ ไป จ.เชียงรายต่อในไฟลท์ถัดไป เพื่อประหยัดเวลาให้มากที่สุด

สัมภาระที่เหล่าฮีโร่แบกขนมาเพื่อภารกิจนี้ บางรายมีนำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ทั้งถังอากาศ ชุดดำน้ำ เครื่องไม้เครื่อมืออื่นๆที่จำเป็นอีกมากมาย ถูกขนขึ้นเครื่องเดินทางมาพร้อมกันกับผู้โดยสารโดยไม่มีตกหล่นสูญหาย

สำหรับบางท่านที่ต้องเดินทางกลับบ้านก่อน ในฐานะฮีโร่ ผู้ให้ความช่วยเหลือ การบินไทยก็นำส่งกลับบ้านจนถึงที่หมายปลายทางด้วยเช่นกัน ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจในการอาสาให้ความช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงของคนไทย

จากการรายงานข่าวของต่างประเทศ ได้บรรยายถึงภารกิจนี้ว่าเป็นครั้งแรกของโลกในการกู้ภัยลักษณะนี้ ที่ผ่านมาอาจมีการหลงถ้ำ ติดถ้ำ ติดเหมือง แต่ครั้งนี้ เป็นการติดค้างในถ้ำที่มีตัวแปรเรื่องสภาพน้ำและสภาพภูมิอากาศเข้ามาเป็นปัจจัยเร่งในการค้นหาและให้ความช่วยเหลือ การทำหน้าที่ของฮีโร่เหล่านี้จึงถูกกดดันด้วยเงื่อนเวลาเป็นสำคัญ เพราะยิ่งนาน ระดับน้ำก็ยิ่งสูงขึ้น แม้จะมีเหล่าจิตอาสาจากเอกชนอีกหลายฝ่าย เข้ามาร่วมภารกิจ สูบน้ำออกจากถ้ำ แต่ก็ยากที่จะต้านพลังธรรมชาติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการพบเจอทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่เกือบปลายถ้ำแล้ว แต่ยังไม่สามารถพาตัวออกมาได้ กลับมีเงื่อนไขเรื่องพายุที่จ่อจะพัดเข้าสู่พื้นที่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้ามารออีก การตัดสินใจและค้นหาวิธีการพาตัวทั้ง 13 คนออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย จึงต้องเร่งทำภายในเวลาที่จำกัดมากยิ่งขึ้น ยิ่งหลังจากที่มีจ่าทหารนอกราชการของหน่วยซีลประเทศไทย เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยแล้ว การตัดสินใจพา 13 ชีวิตออกมาจึงต้องคิดแล้วคิดอีกในทุกมุมทุกด้านด้วยความรอบคอบอย่างที่สุด

นายแพทย์ Richard Harris จากออสเตรเลีย แพทย์ผู้มีประสบการณ์การดำน้ำนับสิบปี ได้เป็นผู้ประเมินสภาพร่างกายของทั้ง 13 ชีวิตและตัดสินใจให้ไฟเขียว ในการพาตัวทั้งหมดออกมา กระทั่งนำมาสู่ปฏิบัติการ พาหมูป่า ออกจากถ้ำ ในวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนสามารถนำทั้งหมดออกมาได้ครบทั้ง 13 คนในวันที่ 10 กรกฎาคม

ถือเป็นการรวมพลังผู้คนจากทั่วโลกครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ที่ต่างพร้อมใจกันมาเพื่อให้ความช่วยเหลือคนแปลกหน้า ที่มีแต่คนอยากพบเจอมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง

ให้หลังเหตุการณ์นี้จบลง บันทึกที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังมีเรื่องราวอีกมากมายหลายมุม ที่เป็นประโยชน์ เป็นบทเรียน ให้หลายหน่วยงาน หลายคน หลายกลุ่มวิชาชีพ และหลายองค์กร เรียนรู้และนำข้อมูลไปปรับ พัฒนา การทำงานของตนเองได้อีกมาก เพื่อการทำงานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นหากเกิดสถานการณ์ใดๆขึ้นอีกในภายภาคหน้า

สำคัญที่สุดของ เหตุการณ์นี้ คือ เรื่องราวนี้ยังคงเป็นเครื่องยืนยันได้ชัดเจนอย่างหนึ่งว่า เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกใบนี้ ยังพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยไม่แบ่งเชื้อชาติ สีผิว นำมาซึ่งรอยยิ้มและความหวัง กระทั่งความสำเร็จ และเราไม่รู้สึกเสียดายหากหลายพันชีวิตต้องมาทุ่มเทแรงใจแรงกาย เพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย....