ตร. ระดมค้นหาหลักฐานเพิ่ม คดี “น้องหญิง” อัจฉริยะ แฉ มีคนจ้างล้มคดี

เจ้าหน้าที่ ระดมค้นหาหลักฐาน จุดเกิดเหตุคดี “น้องหญิง” เพิ่ม

วันนี้ (1 ส.ค.61) เมื่อเวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ณพล กลัดเข็มเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับ พันตำรวจเอก วีระชัย เหลืองวิไล รักษาการแทน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางประอิน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ระดมกำลังกว่า 100 นาย เดินเท้าลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ กรณี น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือหญิง อายุ 19 ปี เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา อีกครั้ง เพื่อค้นหาหลักฐานร่องรอย หรือ อาวุธ ที่คาดว่า นายอ๊อฟ ใช้ก่อเหตุตกหล่นริมทุ่งนา บริเวณทางคู่ขนานสะพานกลับรถ กิโลเมตรที่ 12 ฝั่งขาเข้า กทม.ที่เกิดเหตุ จำนวน 2 จุด

ประกอบด้วย จุดที่ 1 ที่ GPS ในรถเทเลอร์ จับได้ว่า นายอ๊อฟ จอดเพื่อลงไปปัสสาวะ จากนั้นห่างไปประมาณ 300 เมตร GPS ได้จับสัญญาณรถเทเลอร์จอด ตรงจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่มีร่องน้ำ และหญ้าปกคลุม

ซึ่งจากการลงตรวจสอบส่วนใหญ่พบเป็น ท่อนไม้ ในบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะเดียวกันทางตำรวจสันนิฐานว่าอาวุธที่คาดว่าใช้ทำร้ายร่างกาย น้องหญิง ไม่ใช่ค้อน เนื่องจากหากใช้ค้อนจะต้องมีร่องของแผลแตก แต่อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า มีการต่อสู้กันและเอาหัวกระแทกกับดุมล้อรถเทลเลอร์ เพราะการชันสูตรมีแผลเป็น วง 2 วง เหมือนเลข 8

ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่านายอ๊อฟ ได้ทิ้งอาวุธบริเวณดังกล่าวหรือไม่ แต่เพื่อให้หลักฐานสมบูรณ์เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการค้นหาทั่วบริเวณทั้งบนบกและในน้ำ เพื่อที่จะได้หลักฐานมายืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหาต่อไป

ส่วนนายท็อป(แฟนหนุ่ม) น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือเป็ด เบื้องต้นได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยมีการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ สภ.บางปะอิน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายท๊อป หรือไม่

“อัจฉริยะ” เผย มีหลักฐานคนจ้าง ตำรวจล้มคดี

ขณะที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมกับนายสุบิน ยาวิราช พ่อของน้องหญิง ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อ นายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ คนขับรถ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นายอัจฉริยะ เผยว่า มีพยานหลักฐานว่ามีคนจ้างให้ตำรวจไม่ทำคดีนี้เป็นเงินจำนวน 300,000 บาท แต่ไม่ขอเอ่ยว่าเป็นใคร และไม่ใช่เงินที่ น.ส.เป็ด ยื่นประกันตัว เบื้องต้นจะฟ้องศาลให้ดำเนินคดีต่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางประอินด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เตรียมประชุมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เนื่องจากคดีนี้อาจพัวพันกับคดีค้ามนุษย์ ซึ่งทางกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากมีหลักฐานว่าจุดจอดรถเทรลเลอร์เป็นสถานที่ซื้อขายบริการทางเพศ