svasdssvasds

ศาลสั่งจำคุก "อดีตพระเณรคำ" 114 ปี ใน 4คดี ลวงประชาชนให้ชดใช้ค่าเสียหาย

ศาลสั่งจำคุก "อดีตพระเณรคำ" 114 ปี ใน 4คดี ลวงประชาชนให้ชดใช้ค่าเสียหาย

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำอ.2341/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรืออดีตพระวิรพล ฉัตตโก หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ  ที่ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ทาได้เมื่อปี 2560 เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกนะทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ม.14(1) และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 17 ก.พ.52 - 27 มิ.ย.56 ต่อเนื่องกัน จำเลยอาศัยความเป็นพระภิกษุ ในฐานะประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และความศรัทธาของประชาชน ได้บังอาจหลอกลวงว่า จำเลยนิมิต(ฝัน)พบองค์อินทร์  ขอให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และสร้างมหาวิหารครอบองค์พระ โดยใช้หยกเขียวแท้จากประเทศอิตาลี  และสร้างเครื่องทรงพระแก้ว 3 ฤดูด้วยทองคำแท้ และก่อสร้างเสาวิหารแก้ว 199 ต้นๆละ 3 แสนบาท รูปหล่อพระทองคำ (รูปเหมือนจำเลย) ก่อสร้างวิหารสำหรับประชาชนที่วัดป่าฯ สาขา1 จ.อุบลราชธานี  สร้างวัดที่ จ.สุพรรณบุรี รวมทั้งการจัดซื้อเรือจากสหรัฐฯ  เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม  โดยจำเลยประกาศ ชักชวนให้ประชาชน นำเงิน ทองคำ  และทรัพย์สินมาบริจาคกับจำเลย ที่วัดป่าฯ โดยจัดตู้บริจาค 8 ตู้

นอกจากนี้จำเลยยังได้ใช้เว็บไซต์ "www Luangpunenkham.com เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการจัดสร้างสิ่งต่างๆ จนมีผู้เสียหาย 29 ราย(เฉพาะที่มาร้องทุกข์ )หลงเชื่อว่า จำเลยเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ  เข้าร่วมบริจาคเงินและทรัพย์สินต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 28,649,553 บาท แล้วจำเลยโอนเงิน 1,130,000 บาทที่ได้จากการฉ้อโกงไปซื้อรถยนต์ตู้โตโยต้า1 คันโดยทุจริต ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยมิได้ก่อสร้างใดๆเลย เหตุเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ , อุบลราชธานี เชียงใหม่ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ343 ด้วย     ชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ สู้คดี โดยขณะพิจารณา อดีตพระเณรคำ ถูกคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การอวดอ้างนิมิตรถึงพระอินทร์แล้วหลอกลวงให้ประชาชนที่เคารพศรัทธา ที่เป็นพุทธศาสนิกชนหลงเชื่อจนบริจาคเงินให้ แล้วนำไปซื้อรถปอร์เช่ รถตู้ รถกระบะ กลาย 10คัน รวมทั้งใช้เงินเกินความจำเป็นความเป็นสงฆ์ กระทั่งจำเลยก็ถูกศาลแพ่งริบทรัพย์ 43,478,992 บาท นั้น ฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยนั้นผิดตามฟ้อง ซึ่งการกนะทำของจำเลยเป็นความปิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกรรมเป็นกระทงความผิดไป จึงพิพากษาให้จำคุกฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343 รวม 29 กระทงๆละ 3 ปี รวม 87 ปี , พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ม.14(1) เป็นเวลา 3 ปี และความผิดฟอกเงิน  ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ง.ฯ รวม 12 กระทงๆ ละ 2 ปี เป็นจำคุก 24 ปี  โดยรวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตามกฎหมาย ม.91(2) แล้วได้ 20 ปี และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายกับ 29 ราย จามจำนวนที่ได้ฉ้อโกงไป ส่วนที่อัยการโจทก์ให้นำโทษตต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.2340/2560 ที่ถูกฟ้องกระทำชำเราเด็กหญิงนั้น ศาลอาญายังไม่มีคำพิพากษาในขณะนี้จึงให้ยกคำขอนับโทษต่อ ผู้สื่อข่ารายงานว่า สำหรับคดีชำเราเด็กหญิงนั้น ศาลอาญาจะนัดพิพากษาใน เดือน ต.ค.นี้

related