แม่เด็กหญิงวัย 14 น้ำตานองหน้า ลั่นขอความเป็นธรรมและจะสู้คดีที่สุด

ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สหกรณ์ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่ทหารยศ จ.ส.อ.นายหนึ่ง ในสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.นาทวี จ.สงขลา และเป็นแม่เด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าร้องเรียนต่อ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา ที่ อ.นาทวี โดยเล่าถึงเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจว่า ลูกสาวถูกนายทหารยศ ร.ท.นายหนึ่งในสังกัดเดียวกัน ล่วงละเมิดทางเพศมานาน และถึงแม้ว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าประกอบกับกลัวว่าครอบครัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งก็ได้พบกับแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปีรายนี้ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งน้ำตาทั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อครูที่โรงเรียนโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกสาวได้ออกจากโรงเรียนไปกับนายทหารยศ ร.ท.คนหนึ่ง จึงได้ออกตามหากระทั่งได้รับรู้เรื่องราวความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาววัย 14 ปี

ผู้เป็นแม่กลั้นใจ เล่าเหตุการณ์ตามคำบอกของลูกสาวให้กับทีมข่าวฟังว่า นายทหารยศ ร.ท.เป็นหนึ่งในครอบครัวทหารที่อยู่ในบ้านพักทหารด้วยกันและที่สำคัญบ้านอยู่ห่างกันแค่ 50 เมตร และที่ผ่านมาก็ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไปมาหาสู่กันและไว้ใจกัน กระทั่งเมื่อความจริงปรากฏจึงรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว

ลูกสาว เล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นนายทหารรายนี้ได้ออกอุบายโดยการชักชวนไปซื้อ KFC แห่งหนึ่งในพื้นที่ จากนั้นได้พาลูกสาวเข้าไปยังรีสอร์ทก่อนที่จะลงมือข่มขืนกระทำชำเราพร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อข่มขู่ไม่ให้พูดความจริงและสิ่งที่ทุกข์ทรมานใจมากไปกว่านั้นคือพฤติกรรมทางเพศที่ผู้เป็นแม่บอกว่าทารุณ และวิปริตอย่างป่าเถื่อน

การตัดสินใจเข้าร้องเรียนนายณัฐชนนท์ ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลาเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะล่าสุดได้รับการยืนยันว่าคดีนี้จะต้องขึ้นตรงกับศาลทหารและที่สำคัญตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาครอบครัวถูกกดดันและข่มขู่จนทำให้เกิดความหวัดกลัวจนหมดที่พึ่ง

อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการแจ้งความดำเนินคดีเกิดขึ้นความสัมพันธ์ของครอบครัวทหารก็เปลี่ยนไป กระทั่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในคดีทะเลาะวิวาทระหว่างพ่อของเด็กหญิง และนายทหารยศ ร.ท.ภายในบ้านพักทหารจึงถูกคำสั่งให้ออกจากบ้านพัก และต้องมาเช่าห้องเช่าใหม่ชีวิตความเป็นอยู่ยิ่งเดือดร้อนหนักไปกว่าเดิม

สิ่งที่ผู้เป็นแม่สามารถทำได้ทันทีคือการนำตัวลูกสาวออกจากพื้นที่เพื่อรักษาสภาพจิตใจโดยให้ออกจากโรงเรียนเดิมและย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด

ขณะที่ตัวเธอเองและสามียังคงอาศัยห้องเช่านอกค่ายทหาร ในการเดินหน้าต่อสู้คดีให้ถึงที่สุดโดยแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปี ยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความอย่างเด็ดขาดเพราะต้องการให้นายทหารคนนี้ได้รับโทษทัณฑ์ที่ได้กระทำกับเด็กวัยเพียง 14 ปี และขอให้สังคมช่วยเป็นกำลังใจในการต่อสู้คดีพร้อมกับยอมรับว่าหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่แน่ใจว่าลูกสาวจะได้รับความยุติธรรมหากตนเองเป็นอะไรไปขอสังคมเป็นพยานและช่วยเหลือลูกสาวให้มีชีวิตอย่างปกติสุขต่อไป

ขอบคุณภาพ hatyaifocus