พี่เขยยิงน้องเมียดับ โดนดูถูกไร้เงินรักษาเมีย

วานนี้ 10 พ.ย.62 พันตำรวจโท พนัสหมุนวงศ์ รอง ผกก.สส. สภ.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตที่ หมู่ที่ 7 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพรจึงพร้อมด้วย พันตำรวจเอกเสกสิทธิ์สุวรรณฤทธิ์รองผบก ตร. จ.ชุมพรพันตำรวจเอกอุดรแก้วสุขศรีผกก.และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งไปที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้เลขที่ 2604 หมู่ที่7 ต. นาสัก อ. สวีจ. ชุมพร ภายในซอยสาวเอ้ พบว่าผู้ถูกยิงมีผู้นำส่งรพ. ทุ่งตะโก ชื่อนายสุระซ่อนกลิ่น อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 5511 ม 7 ต.นาสัก อ.สวี อาชีพทำสวนทุเรียน แต่ได้เสียชีวิตก่อนถึงมือแพทย์ ชันสูตรพลิกศพพบว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 7.65 เข้าที่บริเวณลำตัวจำนวน 5 นัด ที่บาดแผลมีรอยเขม่าดินปืนแสดงถึงการจ่อยิงแบบเผาขน

พ.ต.อ. อุดร สั่งการให้ตำรวจตรึงกำลังในพื้นที่ เกิดหตุ เนื่องจากทราบว่ามือปืนผู้ลงมือยิงยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุหลังจากทำการตรวจสอบพบว่ามือปืน คือ นายถาวร พรหมวิเศษ อายุ 50 ปีเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุได้ขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักบนบ้านตำรวจได้เกลี้ยกล่อมจนยอมให้ควบคุมตัวแล้วนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.นาสักจากการสอบสวนได้การว่าผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตเป็นน้องเมียของนายถาวร ชื่อนางสุภาพรหมวิเศษอายุ 49 ปีนางสุภาเล่าว่าก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำนายถาวรและนายสุระนั่งดื่มเหล้ากันที่ร้านค้าข้างบ้านในระหว่างนั้นนายสุระได้ถามนายถาวรพี่เขยว่าจะนำนางสุภาพี่สาวไปพบแพทย์หรือไม่ถ้าไม่มีเงินให้เอาเงินของนายสุระไปก็ได้ ทำให้นายถาวรซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาไม่พอใจพูดด้วยเสียงอันดังว่า พูดอย่างนี้ดูถูกกันนี่หว่า แล้วเดินขึ้นไปบนห้องพักนำปืนขนาด 7.65 แมกนั่ม ลงมายิงใส่นายสุระซึ่งเดินติดตามมาที่บริเวณหน้าบ้านกระสุนโดนเข้าที่บริเวณลำตัวนายสุระ 1 นัด แล้วนายสุระวิ่งหนีไปล้มลงที่สนามหญ้าหน้าบ้าน นายถาวรตามมายิงซ้ำอีก 4 นัด แล้วหลบหนีขึ้นไปซ่อนตัวบนห้องพัก ต่อมาญาติพี่น้องได้นำร่างของนายสุระส่งโรงพยาบาลทุ่งตะโกแต่ขาดใจตายก่อนถึงมือแพทย์ในเวลา 00.00น.วันที่ 11 พย.62 ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ชุมพรได้เดินทางมาเก็บเขม่าดินปืนตามร่างกายของนายถาวรและเดินทางไปเก็บหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจได้ตั้งข้อหานายถาวรว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป