svasdssvasds

ไทยเนื้อหอม ดาต้าเซ็นเตอร์ผุดเพียบ คาด 3 ปีเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

ไทยเนื้อหอม ดาต้าเซ็นเตอร์ผุดเพียบ คาด 3 ปีเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

สมาคมดาต้าเซ็นเตอร์แห่งประเทศไทย ชูความโดดเด่นต่างชาติเข้ามาลงทุนเพียบ ไม่ว่าจะเป็น อาลีบาบา หัวเว่ย เทนเซ็นต์ อะเมซอน กูเกิล คาดใน 3 ปีเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียน

SHORT CUT

  • ผุดสมาคมดาต้าเซ็นเตอร์ สร้างโอกาสธุรกิจใหม่ๆ
  • คาดการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยจะสร้างโอกาสมหาศาล
  • วางแผนให้ปรับแก้กฎหมายช่วยเอื้อประโยชน์ธุรกิจ

สมาคมดาต้าเซ็นเตอร์แห่งประเทศไทย ชูความโดดเด่นต่างชาติเข้ามาลงทุนเพียบ ไม่ว่าจะเป็น อาลีบาบา หัวเว่ย เทนเซ็นต์ อะเมซอน กูเกิล คาดใน 3 ปีเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียน

จากข้อมูลการคาดการณ์ของ Structure Research ระบุว่า ในปี 2566 ตลาดโคโลเคชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) มีกำลังไฟมากถึง 10,233 เมกะวัตต์ คิดเป็นประมาณ 40% ของตลาดทั่วโลก และในปี 2571 กำลังไฟจะเพิ่มขึ้นเป็น 19,069 เมกะวัตต์

แม้ประเทศไทยจะมีขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับสองของอาเซียน แต่มาเลเซียและอินโดนีเซียกลับมีการขยายตัวเรื่องเทคโนโลยีที่ชัดเจนกว่า เนื่องจากประเทศไทยยังติดปัญหาในเรื่องของนโยบายและกฎระเบียบ ทำให้การเดินหน้าสู่ยุค AI Economy ที่กำลังขยายตัวยังไม่รู้จะเดินไปในทางไหน

ทั้งนี้ เทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีอิทธิพลต่ออุปสงค์และอุปทานในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมหลัก

ยกตัวอย่างธุรกิจชิปอย่าง Nvidia ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.83 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความต้องการอย่างมากสำหรับการนำไปใช้ร่วมกับสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการคลาวด์และคอนเทนต์แพลตฟอร์มด้วย จึงเป็นโอกาสดีหากบริการเหล่านี้ เลือกศูนย์ข้อมูลเพื่อจัดตั้งฐานปฏิบัติการที่ไทย

ไทยเนื้อหอม ดาต้าเซ็นเตอร์ผุดเพียบ คาด 3 ปีเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

นายทศพล เพ็งส้ม ประธานสมาคมดาต้าเซ็นเตอร์แห่งประเทศไทย เล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่อย่าง Alibaba Cloud, Huawei Cloud, Tencent Cloud, Amazon Web Services และ Google Cloud Platform มองเห็นศักยภาพและเข้ามาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย

ดังนั้นการส่งเสริมและสนับสนุนสภาพแวดล้อมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และได้วางแนวทางในการดำเนินงานของสมาคมผ่านแนวคิด ดังนี้

  • ส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ เร่งแก้ไขกฎระเบียบและใบอนุญาตที่ขัดขวาง เพื่อลดเวลาการเข้าสู่ตลาดและขจัดต้นทุนที่ไม่จำเป็นและสนับสนุนผู้ให้บริการคลาวด์, ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งรายปัจจุบันและรายใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเพิ่ม และส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์พร้อมเพิ่มโอกาสการเติบโตจาก AI
  • ร่วมมือกับภาคพลังงาน ออกข้อกำหนดด้านพลังงานหมุนเวียน ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์แก่ผู้ให้บริการคลาวด์และผู้ให้บริการคอนเทนต์แพลตฟอร์ม และให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติที่เน้นความยั่งยืน

ไทยเนื้อหอม ดาต้าเซ็นเตอร์ผุดเพียบ คาด 3 ปีเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

  • บ่มเพาะและฝึกอบรมบุคลากรในทุกระดับ ขยายและพัฒนาหลักสูตรการศึกษาดาต้าเซ็นเตอร์ แผนการฝึกอบรมและแผนฝึกงานทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว 
  • เป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหาและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่า ในปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.8% ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินโครงการใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นการลงทุนเชิงรุก แคมเปญซอฟต์พาวเวอร์ระยะสั้นไปจนถึงโครงการระยะยาว อย่างเเลนด์บริดจ์ (LandBridge) ในพื้นที่ภาคใต้

ซึ่งจุดมุ่งเน้นสำคัญของความพยายามเหล่านี้คือการดึงดูดการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related