SHORT CUT
โซเชียลมีเดียยุคนี้สามารถเป็นโอกาสในการหารายได้เสริมด้วยการขายของออนไลน์ เพราะนักท่องออนไลน์จะเชื่อการบอกต่อจากเพื่อน หรือการป้ายยาจากคนในแวดวงของตัวเองมากกว่าและมีการซื้อของผ่าน TikTok
คุณศรัณย์ แบ่งกุศลจิต CEO & Co-founder บริษัท อัปเปอร์คัซ ครีเอทีฟ จำกัด และเจ้าของช่อง TikTok “การตลาดการเตลิด” ในเซสชัน Shoppertainment การ F ของแบบใหม่ที่มาเปลี่ยนแปลงวงการ E-commerce จากงาน ‘iCreator Camp 2024 Presented by SONY: ก้าวแรกสู่การเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์มืออาชีพ’ เล่าว่า รายได้ของครีเอเตอร์ยุคปัจจุบันนี้ มาจาก 3 ช่องทางคือ Affiliate, Brand, Product ซึ่งการทำ Affiliate มีมานานกว่าสิบปีแล้วในการขายสินค้าออนไลน์บน Amazon แต่วิธีการเพิ่งมาง่ายในยุคของ TikTok นี่เอง ดังนั้น ถ้าอยากมีรายได้บนช่องทางออนไลน์ ควรทำทั้งสามรูปแบบเลย
Tiktok ได้บัญญัติคำว่า Shoppertainment (Shopping + Entertainment) ขึ้นมา เพราะมองว่าการช้อปของครยุคนี้ ไม่จำเป็นต้องมีของหรือสินค้าก็ได้ แต่ต้องรู้จักการชี้นำหรือป้ายยาให้คนที่เข้ามารับชมคอนเทนต์ผ่านช่องทางของเรา จากเดิมที่ไม่เคยรู้สึกอยากได้มาก่อนต้องกดสั่งซื้อ
จากพฤติกรรมนักช้อปผ่าน TikTok นั้น จะมาจากการที่ไม่เคยคิดอยากได้อะไรมาก่อน แค่อยากจะเข้ามาชมคอนเทนต์หรือเรื่องราวสนุกๆ ซึ่ง 90% ของที่สินค้าที่เอามาป้ายยาบน TikTok มักจะเป็นสิ่งของหรือเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นกับชีวิต แต่เห็นแล้วรู้สึกว่าอยากได้ เพราะฉะนั้น เทรนด์คำว่า Shopertainment เกิดขึ้นมาเพื่ออวยยศสินค้าก่อนค่อยเกิดความต้องการอยากซื้อขึ้นมา
โดยการขายของออนไลน์ยุคนี้ จะแบ่งเป็นสองอย่าง คือ Search&Buy เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee Lazada และเทรนด์ Shoppertainment จะเป็น Play&Buy อย่าง Tiktok ซึ่งคนที่อยากได้ในวินาทีนั้น ถ้าไม่มีคนตอบการขายไม่เกิด
แต่ TikTok ทำให้คนสนใจและกดซื้อได้เลยแบบไม่ต้องถามหรืออินบ็อกซ์ให้มากความ ด้วยความที่ TikTok มาทีหลังแพลตฟอร์มอื่นๆ จึงผสมทั้งสองรูปแบบการขายของทุกแพลตฟอร์มไว้ด้วยกัน
สำหรับการขายของออนไลน์ด้วยเทรนด์แบบ Shoppertainment นั้น อินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์ สามารถใช้วิธีสร้างคอนเทนต์ด้วย VDO+Live+Picture เพราะทั้ง 3 แนวทางนี้ จะช่วยตอกย้ำความน่าสินใจของสินค้าได้ครบวงจรมากขึ้น บางคนอาจจะเก็บส่วนลดจาก LIVE แล้วเข้าไปดูรีวิวแบบคลิปวิดีโอซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะเก็บรายละเอียดด้วยข้อมูลและภาพก่อนกดจ่ายเงิน ถือว่าจบขั้นตอน
ทั้งนี้ การทำคอนเทนต์ด้วย Short Video ก็ช่วยทำให้คนดูสนุกและยอมจ่ายเงินมากขึ้น 85% ของนักการตลาดเห็นตรงกันว่า Short Video เป็นฟอร์แมตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดังนั้น การจะใช้แพลตฟอร์มเพื่อเน้นคอนเทนต์อะไร ครีเอเตอร์ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้ทัน เพราะการมาถึงของเทรนด์ shoppertainment ทำให้เกิดพลังมหาศาล ยกตัวอย่างนักช้อป ชาวอีสานที่มีการซื้อของใน TikTok มากถึง 4,000 บาท/ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าคนยอมจ่ายกันไวขึ้น
คำว่า Give before Take คืออีกหนึ่งแกนที่คนทำช่องต้องจดจำไว้ด้วยว่า เราอยู่ในแกนของการปั้นตัวตนเพื่อเป็นอินฟลูเอนเซอน์ที่มีโอกาสทางรายได้จากหลายช่องทาง
ดังนั้น เราต้องไม่เน้นขายอย่างเดียว แต่การเลือกสินค้ามารีวิวนั้นต้องให้ความรู้ ความสนุกและความจริงใจในการรีวิวด้วย จะยิ่งทำให้ลูกค้าจะอยากซื้อของคุณเอง แต่ถ้าคุณเน้นแต่ขายของคุณก็จะมีรายได้จากช่องทางเดียวคือส่วนแบ่งจากแบรนด์เท่านั้น
นอกจากนี้ เทรนด์การทำคอนเทนต์แบบ Live Commerce ก็มาแรงมากๆ หากใครเคยเข้าไปดู LIVE ของคนดังอย่างเช่น แน็ก ชาลี - กามิน หรือ อิงฟ้า วราหะ จะเป็นการขายแบบไม่ตั้งใจ ป้ายยาแบบเนียนๆ แต่คนยอมกดซื้อไวมาก
ทั้งนี้ ช่องทางการซื้อของใน TikTok นั้น ควรทำให้ครบทั้ง 3 ช่องทาง คือ
ทั้ง 3 ช่องทางที่กล่าวมานี้ ถือว่ามีอัตราการขายที่ดีใกล้เคียงกัน เพราะค่าเฉลี่ยโอกาสในการซื้อของแต่ละช่องทางเฉลี่ยอยู่ที่ 30% ดังนั้น ยุคนี้ไม่ทำ Affiliate ก็คงไม่ได้แล้ว
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม