svasdssvasds

ซุปเปอร์ริชสีส้ม เตรียมเปิดบริการแลกเงินผ่านวอลเล็ตไตรมาส 3 ปี '66 นี้

ซุปเปอร์ริชสีส้ม เตรียมเปิดบริการแลกเงินผ่านวอลเล็ตไตรมาส 3 ปี '66 นี้

ซุปเปอร์ริชสีส้ม ทรานฟอร์มสู่เทคโนโลยีดิจิทัล เตรียม ”พลิกฟื้นธุรกิจ” ขยายช่องทางการแลกเงินด้วย 3 กลยุทธ์หลัก หลังได้รับใบอนุญาตมันนี่ทรานเฟอร์จากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว

ปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์(1965) จำกัด (ซุปเปอร์ริชสีส้ม) ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า แผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปี (ปี พ.ศ. 2566-2568) เพื่อฟื้นธุรกิจ และเรียกความเชื่อมั่นแบรนด์ซุปเปอร์ริชสีส้มกลับมา พร้อมกับการทรานฟอร์มธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตใหม่ในระยะข้างหน้า

กลยุทธ์เติบโตใน 3 ปี

ทั้งนี้ ซุปเปอร์ริชสีส้ม ได้วางเป้าหมายทางด้านรายได้ และปริมาณยอดแลกเงินกลับมาเติบโต 20%ต่อปี ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ

  1. มุ่งการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อเป็นผู้นำทางด้าน “new innovation Financial technology”
  2. กลับมาเปิดสาขา เพิ่ม 6-8 สาขารวมบนบีทีเอสด้วย
  3. สร้างพนักงานแลกเงินกลุ่มใหม่ที่มีความชำนาญเข้ามาเพิ่มเติม

หากสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ จะทำให้ซุปเปอร์ริชสีส้ม สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน มากกว่าเป็นแค่ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจแลกเงินเท่านั้น  

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ ซุปเปอร์ริชสีส้ม อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมระบบ กระเป๋าเงินดิจิทัล หรือ E-wallet เพื่อเปิดให้บริการอัตราแลกเปลี่ยนผ่านวอลเล็ต เช่นเดียวกับการให้บริการธุรกิจการโอนเงินไปต่างประเทศ (money transfer)  เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนโอนเงินไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทได้รับใบอนุญาตมันนี่ทรานเฟอร์แล้ว จากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในไตรมาส 3 ของปี 2566 นี้ ซึ่งบริการนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ช่วงอายุ 25 - 30 ปี เป็นการขยายฐานลูกค้า จากเดิมที่เป็นคนที่มีช่วงอายุ 40-50 ปี

นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาโพ้ยก๊วนต่างๆ พร้อมยังช่วยเพิ่มปริมาณยอดแลกเงินโดยรวมได้อีกด้วย

ซุปเปอร์ริชสีส้ม เตรียมเปิดบริการแลกเงินผ่านวอลเล็ตไตรมาส 3 ปี '66 นี้

ทางด้านของการกลับมาเปิดสาขาเพิ่มเติมนั้น จะมีทั้งการเพิ่มสาขาบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อีกประมาณ 6-8 สาขา จากปัจจุบันที่เหลือเพียงสาขาเดียวบนสถานีรถไฟฟ้าอโศก รวมถึงการขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพฯ เป็นหลัก

โดยคัดเลือกจากพื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่สาขาทำกำไรในอดีตมาก่อน อีกราว 5-7 สาขา รวมเป็น 19 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันมี 12-14 สาขา ซึ่งในขณะนี้ได้มีการเซ็นสัญญาเปิดสาขาในหลายพื้นที่เป้าหมายไว้พร้อมแล้ว

นอกจากนี้ ช่วงระยะสั้นเตรียมกลับมาทำการตลาดเต็มที่อีกครั้ง เพื่อรีแบรนด์ซุปเปอร์ริชสีส้ม และเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง  รวมถึงอัดโปรโมชั่นต่างๆและที่สำคัญหลังจากที่ได้นำระบบเอไอและดาต้าอนาไลติกมาใช้ ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้แล้วและอยู่ระหว่างการขึ้นระบบเกี่ยวกับ PDPA ของลูกค้าให้ลูกค้ายินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้นำมาวิเคราะห์เพิ่มเติมและทำการการส่งแคมเปญพิเศษ เช่น อัตราแลกเงินเรตพิเศษที่ตรงกับความต้องการลูกค้าแต่ละบุคคลได้อีกด้วย

ซุปเปอร์ริชสีส้ม เตรียมเปิดบริการแลกเงินผ่านวอลเล็ตไตรมาส 3 ปี '66 นี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเร่งสร้างพนักงานแลกเงินกลุ่มใหม่ ที่มีความชำนาญในแบบฉบับของซุปเปอร์ริชสีส้มเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับทั้งคนไทยที่ออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยโดยเห็นสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนถึงต้นปีมานี้ ที่เห็นการฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งส่งผลให้ยอดแลกเงินต่อรายต่อเดือน

ทั้งนี้ ภาพรวมในปัจจุบันฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับ 60% แล้ว หรือเม็ดเงินสะพัดกว่า 6,000 -7,000 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งปกติเคยมียอดแลกเงินแตะระดับ 10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ายอดแลกเงินคงไม่กลับไปที่หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะหลังโควิดคนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทั้งแลกเงินและใช้จ่ายเงินบนแอปพลิเคชั่นบนมือมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดกว้างในการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในกับเรา โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี การพัฒนานวัตกรรมการเงินใหม่ๆ และการขยายตลาดออกไปสู่ต่างประเทศ ภายใต้ใบอนุญาตที่เรามีอยู่แล้ว

“ขณะนี้มีต่างชาติ 2-3 ราย ติดต่อขอเจรจาร่วมทุน คาดว่า ต้องเจรจาช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ หากมีความชัดเจนพร้อมจะเปิดเผยทันที เพราะในโลกการเงินทุกวันนี้เจอดิสรัปต์หนักขึ้น และแข่งขันกันไม่แต่กับแบงก์หรือนอนแบงก์ในบ้านเราเท่านั้นแต่การแข่งขันมาจากทั่วโลกและทุกธุรกิจใครก็สามารถทำได้หากตามเทคโนโลยีได้ทัน”

ขณะเดียวกันยังมองว่าการแลก “เงินสด” ยังมีความจำเป็นหากมีปัญหาในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน “นวัตกรรมการเงินที่เป็นระบบดิจิทัลและเงินดิจิทัล” เข้ามามีบทบาทในสังคมยุคใหม่ขึ้นมาก จึงต้องเตรียมตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกการเงินยุคใหม่

related