
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จับมือ กรมส่งเสริมการเกษตร พัฒนาโลจิสติกส์ภาคการเกษตร หนุนคนไทยอุดหนุนสินค้าเกษตรไทย ส่งตรงจากสวนถึงผู้บริโภค
แม้สินค้าเกษตรไทยจะมีจุดแข็งทั้งคุณภาพ ความหลากหลาย และชื่อเสียงในตลาดโลก แต่ “การเข้าถึงลูกค้า” ยังคงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในทุกระดับ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ยังเป็นคอขวด คือ ระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่การขนส่งจากแหล่งผลิต การจัดเก็บที่รักษาคุณภาพ ไปจนถึงการกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและคุ้มต้นทุน หากโครงสร้างโลจิสติกส์ยังไม่ทั่วถึงหรือมีต้นทุนสูง สินค้าเกษตรไทยก็ยากจะแข่งขันได้เต็มศักยภาพ การพัฒนาและเปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ จึงไม่ใช่แค่เรื่องการขนส่ง แต่คือกุญแจสำคัญในการเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และเชื่อมสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยเหตุนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท โกลบอล เจท เอ็กซ์เพรส (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ J&T Express ประเทศไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตรอย่างครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการผลิต การจัดการสินค้า บรรจุภัณฑ์ การบริหารสินค้าคงคลัง การตลาด ไปจนถึงการขนส่งและส่งมอบสินค้าเกษตรสู่มือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสนับสนุนให้คนไทยเข้าถึงสินค้าเกษตรคุณภาพจากเกษตรกรไทยโดยตรง โดยมีนายกฤษ อุตตมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้ ณ กรมส่งเสริมการเกษตร
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับศักยภาพเกษตรกรไทยให้สามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์ตลอดห่วงโซ่อุปทานได้อย่างเป็นระบบ ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มความรวดเร็ว และรักษาคุณภาพสินค้าเกษตรให้สดใหม่ ปลอดภัย จนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาอุดหนุนสินค้าเกษตรไทยมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ Ms. Winni Li ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท โกลบอล เจท เอ็กซ์เพรส (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนภาคการเกษตร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ โดยมองว่าโลจิสติกส์เป็นกลไกสำคัญในการช่วยขยายโอกาสทางการตลาดให้แก่เกษตรกร ความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตรในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภคได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม พร้อมทั้งต่อยอดด้วยความพร้อมด้านเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าเกษตรและผลไม้ เพื่อส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพถึงมือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว กรมส่งเสริมการเกษตรและ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย จะร่วมกันสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงบริการขนส่งสินค้าเกษตรในราคาที่เหมาะสม โดยเกษตรกรที่แสดงสมุดทะเบียนเกษตรกร ณ จุดให้บริการของ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จะได้รับส่วนลดค่าบริการจัดส่งร้อยละ 10 และในกรณีที่เกษตรกรลงทะเบียนเป็นลูกค้าระดับพิเศษ (VIP) จะได้รับส่วนลดค่าบริการจัดส่งร้อยละ 10 พร้อมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ตามเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันพิจารณา
นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานยังร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับลักษณะสินค้าเกษตรและรูปแบบการขนส่ง รวมถึงกำหนดมาตรการดูแลและรักษาคุณภาพสินค้าให้คงสภาพสมบูรณ์เมื่อถึงมือผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและผลไม้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าเกษตรไทยจากแหล่งผลิตได้อย่างมั่นใจ สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น
กรมส่งเสริมการเกษตรขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเกษตรกรไทย ด้วยการเลือกซื้อและอุดหนุนสินค้าเกษตรไทยคุณภาพ ผ่านช่องทางการจำหน่ายของเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน โดยระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเชื่อมโยง “จากแปลงเกษตรถึงโต๊ะอาหาร” สร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ เสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก และนำไปสู่การพัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ท้ายที่สุดการยกระดับระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของถนน รถ หรือคลังสินค้า แต่คือการเปิดประตูโอกาสให้เกษตรกรไทยได้ก้าวออกจากข้อจำกัดเดิมๆ สินค้าเกษตรสามารถเดินทางจากไร่นาสู่มือผู้บริโภคได้รวดเร็วขึ้น ต้นทุนลดลง คุณภาพคงอยู่ และเข้าถึงตลาดที่กว้างกว่าเดิม เมื่อโลจิสติกส์เชื่อมต่ออย่างทั่วถึง โอกาสในการแข่งขัน รายได้ที่มั่นคง และความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย ก็จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป