ชวนรู้จัก เหว่ยเจี๋ย หรือ รุ่ยเจี๋ย ตัวละครสงครามส่งด่วน - ประวัติของบุคคลสำคัญ จาก Alibaba มาสร้างตำนานเทคฯ ให้ Flash Express ในวันเริ่มต้น
ก่อนจะมี Flash Express ยูนิคอร์นโลจิสติกส์ไทย ที่เรารู้จัก อย่างทุกวันนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นจากร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เซี่ยงไฮ้..."คมสันต์ ลี" ชายไทยผู้มีความฝันใหญ่ เดินทางข้ามประเทศมานั่งรอชายจีนคนหนึ่งที่ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ—เขาคือ “เหว่ยเจี๋ย” พนักงานระดับสูงของ Alibaba ที่ใคร ๆ ก็ไม่กล้าดึงตัว
เขาไม่ได้มาเพราะสงกรานต์ในเมืองไทย , คมสันต์ ลี พาเหว่ยเจี๋ยมาดู “แถวพัสดุ” ที่ The Street รัชดาฯ คนต่อคิวส่งของยาวเหยียดจนเขาคิดว่า "นี่มันจัดฉากหรือเปล่า?"
แต่แทนที่จะเชื่อทันที เหว่ยเจี๋ยเดินเอง ถามเอง สัมภาษณ์แม่ค้าเองจนเที่ยงคืน แล้วโทรกลับด้วยประโยคเดียวที่เปลี่ยนทุกอย่าง “ผมพร้อมแล้ว ผมจะร่วมทำ Flash กับคุณ!”
แรงผลักดันหลักที่ทำให้ เหว่ยเจี๋ย (Weijie) ตัดสินใจเปลี่ยนจาก Alibaba มาร่วมงานกับ Flash Express
มีหลายประการ
• การมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่กว่าในตลาด Mobile App และ Mobile Internet: แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะบุคคลสำคัญที่ Alibaba และเป็นผู้ที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว แต่เหว่ยเจี๋ยได้มองเห็นโอกาสที่ใหญ่กว่าในตลาด Mobile App ซึ่งยังมีช่องว่างอีกมาก และเชื่อว่า Mobile Internet กำลังจะเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนอย่างมหาศาล
• สภาพตลาดโลจิสติกส์ในประเทศไทยที่ล้าหลังและมีช่องว่างให้พัฒนา: คมสันต์ ลี ผู้ก่อตั้ง Flash Express ได้ชวนเหว่ยเจี๋ยมาประเทศไทย และจงใจพาไปดูภาพพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมากยืนต่อคิวส่งของยาวเหยียดที่ศูนย์รับส่งสินค้าแห่งหนึ่งที่ The Street รัชดาฯ ภาพนี้ทำให้เหว่ยเจี๋ยประหลาดใจอย่างมากที่ยังมีบริการที่ลูกค้าต้องรอคิวเป็นชั่วโมงและจ่ายค่าบริการแพง ในเวลานั้น ตลาดโลจิสติกส์ไทยยังล้าหลัง โดยการส่งของใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายสูงมาก
• สัญชาตญาณของการเป็น "นักพิสูจน์" และการเห็นคุณค่าในสิ่งที่สร้าง: เหว่ยเจี๋ยไม่เชื่อในตอนแรกว่าคมสันต์ไม่ได้จ้างคนมาเข้าคิวเพื่อหลอกให้เขาร่วมธุรกิจ จึงออกไปสัมภาษณ์แม่ค้าด้วยตัวเอง เดินสำรวจและสอบถามทุกอย่าง จนกระทั่งเที่ยงคืนจึงโทรกลับมาบอกคมสันต์ว่า "ผมพร้อมแล้ว ผมจะร่วมทำ Flash กับคุณ!" เขายอมรับว่าภูมิใจที่ได้เห็นโค้ดที่ตัวเองเขียนสามารถทำงานได้จริงและสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น
• ความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของคมสัน ลี และบทบาทของตัวเอง : เหว่ยเจี๋ยเคยเปรียบตัวเองว่าเป็น "นักพายเรือที่ดีมาก แต่ผมไม่มีเรือ คุณคือเรือที่ผมรอ เรือลำนี้ต้องไปให้ถึงฝั่ง และผมจะพายจนสุดแรง" เขามองว่าคมสันต์ ลี คือจิตวิญญาณของบริษัท และแม้คมสันจะเสนอให้ถือหุ้นมากกว่าตัวเอง แต่เหว่ยเจี๋ยก็ปฏิเสธ โดยขอถือหุ้นเพียง 30% แทน 50% ที่คมสันต์เสนอ เพื่อให้คมสันต์เป็น "พ่อใหญ่" ของบริษัทคนเดียวที่ตัดสินใจเด็ดขาด
• ความท้าทายในการ "รื้อ" และ "สร้างใหม่ทั้งระบบ" : จากประสบการณ์ที่ Alibaba ที่เหว่ยเจี๋ยเคยได้รับโจทย์ยากในการสร้าง Alipay Wallet เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นมาใหม่ทั้งระบบ ทำให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบและพร้อมที่จะเผชิญความท้าทายในการสร้างระบบโลจิสติกส์ตั้งแต่ศูนย์ให้กับ Flash Express
การตัดสินใจของเหว่ยเจี๋ยเกิดจากการที่เขามองเห็นช่องว่างและโอกาสในการปฏิวัติธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ประกอบกับความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของคมสัน ลี และความมุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านระบบจาก Alibaba มาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
1 ปีครึ่งแรก เหว่ยเจี๋ยไม่เคยกลับบ้าน นอนในโกดัง นอนบนลังพัสดุ มีแปรงสีฟันไว้ที่ออฟฟิศ และไม่เจอหน้าลูกเลย 2 ปีเต็ม
เขาทำงานแบบไม่มีคำว่า “สงสาร”
โทรหาพนักงานทุกคืน
เช็กละเอียดทุกขั้นตอน
และ “พูดแรง” เสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
จนคมสันต์ ลี CEO ของ Flash Express เคยโพสต์ใน Facebook ว่า: “ตัวจริงด่าเก่งกว่าในหนังแน่นอน 1000%!!!”
แม้คมสันต์ ลี จะยื่นข้อเสนอให้ถือหุ้นมากกว่าตัวเอง เหว่ยเจี๋ยก็ปฏิเสธ และพูดว่า “คุณคือเรือที่ผมรอ ผมเป็นนักพายที่ดี แต่ไม่มีเรือ ผมจะพายเรือลำนี้จนสุดแรง”
นี่คือพันธมิตรที่ไม่มีใครเหนือกว่าใคร แต่มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน
Flash Express เริ่มต้นจาก “ศูนย์” ไม่มีรถ ไม่มีโกดัง ไม่มีระบบ แต่เพราะคนชื่อ “เหว่ยเจี๋ย” บริษัทสามารถจัดการพัสดุกว่าล้านชิ้นต่อวันภายใน 5 ปี
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่มันคือ "เรื่องของคนที่กล้าทุ่มสุดตัว"
ตัวจริงที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในซีรีส์
ตัวละคร รุ่ยเจี๋ย ในซีรีส์ สงคราม ส่งด่วน Mad Unicorn: สงครามส่งด่วน ที่กำลังเป็นกระแสในประเทศไทยอยู่ในตอนนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากเขาโดยตรง – ดุ, จริงใจ, บ้างาน, ไม่แวะซ้ายขวา
แม้จะดุจนคนร้องไห้ แต่วันนี้ หนึ่งในลูกน้องที่เคยโดนดุกลายเป็น Head of Product แล้ว นี่คือบทพิสูจน์ว่า “ด่าเพื่อดัน ไม่ใช่ด่าเพราะอารมณ์”
ถ้าไม่มีเขา ก็ไม่มียูนิคอร์นตัวแรกของไทย
เรามักพูดกันว่า “ไอเดียเปลี่ยนโลก”
แต่ความจริงคือ “ไอเดียต้องการมือขวาที่ลงมือทำ”
เหว่ยเจี๋ยไม่ใช่แค่โปรแกรมเมอร์ ไม่ใช่แค่คนวางระบบ - แต่เขาคือคนที่ยอมนอนข้างกองลังพัสดุ เพื่อให้ของส่งถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกองค์กรล้วนต้องมี “เหว่ยเจี๋ย” คนที่กล้าพิสูจน์ คนที่ลงมือทำ และทุ่มสุดหัวใจเพื่อฝันของคุณ บางที เขาอาจอยู่ใกล้ตัวคุณแล้วก็ได้ แค่คุณกล้ามองหา และกล้าเชื่อในศักยภาพของเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง