svasdssvasds

Gen Alpha ชี้เป้าแบรนด์พันล้าน เทรนด์ใหม่ที่นักลงทุนต้องฟัง

Gen Alpha ชี้เป้าแบรนด์พันล้าน เทรนด์ใหม่ที่นักลงทุนต้องฟัง

พลังซื้อของ Gen Alpha กำลังสะเทือนโลก จากของเล่นสุดฮิตสู่หุ้นพุ่งแรง อย่ามองข้ามของเล็กๆน้อยๆที่ลูกของคุณอยากได้ เทรนด์ที่นักลงทุนและพ่อแม่ยุคใหม่ต้องจับตา

SHORT CUT

  • พลังเศรษฐกิจ Gen Alpha เด็กรุ่นใหม่มีอิทธิพลโดยตรงต่อการใช้จ่ายในครัวเรือนถึง 42% ทำให้รสนิยมของพวกเขากลายเป็นตัวชี้วัดเทรนด์สินค้าและบริการในอนาคต
  • กระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ สามารถแปลเปลี่ยนเป็นมูลค่าหุ้นที่พุ่งสูงได้อย่างรวดเร็ว ดังที่เห็นจากกรณีของ Labubu (Pop Mart) และ Buldak (Samyang Foods)
  • การจะเข้าถึงผู้บริโภค Gen Alpha ที่มีความรู้และตัวเลือกหลากหลาย แบรนด์ต้องปรับตัวและสร้างความน่าเชื่อถือ ไม่เช่นนั้นอาจต้องยอมทุ่มเงินซื้อแบรนด์ที่ขับเคลื่อนโดยอินฟลูเอนเซอร์เพื่อสร้างการเติบโต

พลังซื้อของ Gen Alpha กำลังสะเทือนโลก จากของเล่นสุดฮิตสู่หุ้นพุ่งแรง อย่ามองข้ามของเล็กๆน้อยๆที่ลูกของคุณอยากได้ เทรนด์ที่นักลงทุนและพ่อแม่ยุคใหม่ต้องจับตา

Gen Alpha หรือเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วงปี 2010-2024 กำลังจะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในยุคของเรา

แม้ปัจจุบันบางคนจะยังเป็น "เด็ก" แต่มีการประเมินว่าเม็ดเงินกว่า "5.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ" ได้ถูกใช้จ่ายไปกับพวกเขาแล้ว และภายในปี 2030 คนกลุ่มนี้ก็จะเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานและ 'มีรายได้เป็นของตัวเอง'

Gen Alpha ชี้เป้าแบรนด์พันล้าน เทรนด์ใหม่ที่นักลงทุนต้องฟัง

ทำไม Gen Alpha ถึงมีอิทธิพล?

สิ่งที่ทำให้เด็กรุ่นนี้แตกต่างจาก Gen Z คืออิทธิพลที่พวกเขามีต่อการตัดสินใจของพ่อแม่

ผลสำรวจจากบริษัท DKC พบว่า ผู้ปกครองกว่า '90%' ยอมรับว่าลูกๆ ของพวกเขามีความสามารถในการค้นหาสินค้าใหม่ๆ

และที่น่าสนใจคือ '42%' ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครัวเรือน ได้รับอิทธิพลมาจากความคิดเห็นของเด็กๆ

Gen Alpha ชี้เป้าแบรนด์พันล้าน เทรนด์ใหม่ที่นักลงทุนต้องฟัง

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเพราะพ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่คือกลุ่ม Millennials ที่เคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจ

ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตค่าครองชีพ หรือความไม่มั่นคงในหน้าที่การงาน ทำให้พวกเขา 'เปิดใจ' รับฟังข้อมูลจากลูกๆ ที่เติบโตมากับเทคโนโลยีและคลุกคลีอยู่บนโซเชียลมีเดียมากกว่า

พลังของ Gen Alpha ได้เปลี่ยนแบรนด์ที่ดังจากกระแสไวรัลให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาล ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Labubu ที่ผลิตโดย Pop Mart แม้กระแสการค้นหาบนโซเชียลมีเดียจะเริ่มคงที่ แต่ราคาหุ้นของบริษัทกลับพุ่งทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

CREDIT : REUTERS

เพราะฐานลูกค้าได้ขยายจากกลุ่มวัยรุ่นไปสู่กลุ่มคุณแม่วัยทำงานที่มีกำลังซื้อสูง เมื่อของเล่นชิ้นหนึ่งกลายเป็นสินค้ากระแสหลัก นักลงทุนก็มองเห็นโอกาสในการเติบโตของกำไร ทำให้ปัจจุบัน Pop Mart มีมูลค่าตลาดสูงกว่า Sanrio (เจ้าของ Hello Kitty) และ Barbie รวมกัน

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ Samyang Foods เจ้าของราเมนเผ็ด Buldak ที่โด่งดังจาก "Buldak Challenge" บนโลกออนไลน์ ส่งผลให้กำไรสุทธิครึ่งปีแรกพุ่งสูงถึง '34%' จากยอดขายในต่างประเทศ และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า '82%' ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม การจะเอาชนะใจผู้บริโภค Gen Alpha ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาเป็นนักช็อปที่ "เลือกเยอะ" และรู้คุณค่าของเงิน

โดยเฉพาะในจีนที่วัยรุ่นสามารถเข้าถึงสินค้าแบรนด์ระดับโลกได้ง่ายผ่านร้านค้าปลีกอย่าง Harmay ที่จำหน่ายเครื่องสำอางขนาดทดลองในราคาที่จับต้องได้ ทำให้พวกเขารู้ว่าสินค้าไหนดีและคุ้มค่าจริง

ด้วยเหตุนี้ บริษัทข้ามชาติจึงยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อกิจการแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยเซเลบริตี้หรืออินฟลูเอนเซอร์ เช่น กรณีที่ Elf Beauty เข้าซื้อ Rhode แบรนด์ของ Hailey Bieber ด้วยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

CREDIT : Courtesy of e.l.f.

'เพราะหากแบรนด์ไม่สามารถสร้างกระแสได้ด้วยตัวเอง การใช้อินฟลูเอนเซอร์มาช่วยบอกเล่าเรื่องราวคือทางลัดที่ดีที่สุด'

คนรุ่นใหม่กำลังเปลี่ยนนิยามของการบริโภคในทุกมิติ ตั้งแต่การซื้อของมือสอง การใช้ชีวิตแบบไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไปจนถึงการทานมังสวิรัติ

ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์ นักการตลาด และนักลงทุนจะต้องหันมา "รับฟัง" และเรียนรู้เคล็ดลับการลงทุนจากพวกเขา

ที่มา : AFR

related