svasdssvasds

คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง

คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง

เปิดอินไซต์คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านบาทโตแรง ส่วนตลาดอาหารสัตว์รวม 50,000 ล้านบาท โตต่อเนื่อง 12% ต่อปี

SHORT CUT

  • ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 50,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องที่ 12% ต่อปี
  • เผยพฤติกรรมคน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง
  • ตลาด ขนมสัตว์เลี้ยง (Snacks) ก็เป็นตลาดที่น่าจับตา โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของมูลค่าตลาดรวม และมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูงมาก

เปิดอินไซต์คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านบาทโตแรง ส่วนตลาดอาหารสัตว์รวม 50,000 ล้านบาท โตต่อเนื่อง 12% ต่อปี

ต้องยอมรับว่าวันนี้สถานะของสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาหรือน้องแมวได้ก้าวข้ามคำว่า "เทรนด์" ไปสู่ "เมนสตรีม" หรือเป็นเรื่องหลักในสังคมเมืองแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 50,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องที่ 12% ต่อปี การเติบโตนี้มีปัจจัยมาจากการที่จำนวนสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายกิติศักดิ์ ลิ้มอำไพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็ท ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตขนมและอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงแบรนด์ JINNY และ JerHigh ในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีสัตว์เลี้ยงรวมกันในประเทศไทยประมาณ 14 ล้านตัว นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงระดับโลก โดยอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก

พฤติกรรมผู้บริโภคใหม่รักเหมือนลูก พร้อมเปย์ทุกช่วงวัย

จากการสำรวจผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen) มองสัตว์เลี้ยง "เหมือนลูก" หรือ "คนในครอบครัว" พวกเขาแสดงความรักสัตว์เลี้ยงแบบไม่มีเงื่อนไข การใช้จ่ายต่อสัตว์เลี้ยงจึงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเกือบ 40,000 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งตัวเลขนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการเพียงแค่อาหารที่อร่อยเท่านั้น แต่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงของตนอยู่ด้วยกันนานๆ มีความสุขและมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นผู้บริโภคจึงให้ความสำคัญอย่างมากกับผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่อง โภชนาการ (Nutrition) ที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงในทุกช่วงอายุ และมองหาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม

คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง

ตลาดเฉพาะทาง "ทาสแมว" และ "ขนม" คือโอกาสเติบโต

แม้ว่าในภาพรวมตลาดจะประกอบด้วยสุนัขและแมว แต่การเติบโตของกลุ่มน้องแมวก็สูงมากในเวลานี้ เนื่องจากปัจจัยของสังคมเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป แบรนด์จึงต้องเริ่มพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของแมวทุกตัว นอกจากนี้ ตลาด ขนมสัตว์เลี้ยง (Snacks) ก็เป็นตลาดที่น่าจับตา โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของมูลค่าตลาดรวม และมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูงมาก ในส่วนของระบบนิเวศโดยรอบ (Ecosystem) ร้าน Pet Shop และโรงพยาบาลสัตว์ต่าง ๆ ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะร้าน Pet Shop ที่ถูกขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ (Gen) ซึ่งนำเสนอระบบและบริการที่ดี ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมให้สูงขึ้น

คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง

แบรนด์ไทยสู่ตลาดโลกมุ่งหน้าขยายฐานในเอเชียและอาเซียน

ผู้ประกอบการไทยมีความเชื่อมั่นสูงว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงสามารถขยายไปตลาดโลกได้อย่างมาก ไม่ใช่แค่การขายหรือการผลิต แต่ด้วย คุณภาพของคนไทย นักนวัตกรรม และความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แม้ตลาดในโซนอเมริกาและยุโรปจะยังคงใหญ่ แต่ภูมิภาคที่มี อัตราการเติบโตที่สูงมาก คือ เอเชีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาเซียน ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ค่อนข้างเยอะ ตัวอย่างเช่น บริษัท Jhai (ผู้ผลิต) สามารถส่งออกไปแล้ว 32 ประเทศทั่วโลก ขณะที่แบรนด์ Jinny (สำหรับแมว) ซึ่งเพิ่งรีแบรนด์เมื่อต้นปี ก็ขยายไป 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว และตั้งเป้าจะขยายเป็น 30 ประเทศทั่วโลกภายในปีนี้

จุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์โภชนาการระดับพรีเมียมและความปลอดภัย

ความแตกต่างสำคัญของผลิตภัณฑ์ในเครือ เช่น แบรนด์ Jhai และ Jinny คือการให้ความสำคัญกับสุขภาพและโภชนาการ โดยมีการใช้ วัตถุดิบเทียบเท่าอาหารมนุษย์ (Human-grade) เช่น การใช้ไก่ที่ได้มาตรฐานสูงจนสามารถส่งให้นักบินอวกาศทานได้ นอกจากนี้ ยังใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมาช่วยพัฒนาสินค้าเพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว การพัฒนาสินค้ายังลงลึกไปถึงการดูแลที่แตกต่างกันตามแต่ละสายพันธุ์

คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง

ยกระดับสังคมรณรงค์ความรับผิดชอบและช่วยเหลือสัตว์จรจัด

ในขณะที่ธุรกิจเติบโต ภาคอุตสาหกรรมก็ตระหนักถึงปัญหาของสัตว์เลี้ยงจรจัดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังช่วงโควิด ผู้ประกอบการจึงเห็นความสำคัญในการยกระดับระบบนิเวศนี้ให้ดีขึ้น โดยการทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น "หมอหมาใจหล่อ" ซึ่งกำลังจะต่อยอดสู่โครงการ "หมอแมวน่ารัก" เพื่อช่วยเหลือน้องหมาและน้องแมว

หลักการสำคัญคือการ ปลูกจิตสำนึก ให้ดีก่อนการเลี้ยง โดยให้ความรู้ควบคู่กับความรัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงเมื่อมันโตขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการยก ระดับมูลนิธิต่าง ๆ ทั่วประเทศ (กลางน้ำ) โดยสนับสนุนทั้งสินค้าและยา และในขั้นตอนสุดท้าย (ปลายน้ำ) คือการช่วยหาบ้านใหม่ให้กับสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โครงการได้ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงจรจัดไปแล้วประมาณ 35,000 ตัว และสนับสนุนสินค้าและยารวมมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีการจัดงาน ‘จินนี่ ใจฟูเจอร์นี่’ ในครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวพรีเซนเตอร์อย่างเป็นทางการ ‘พี่จอง และคัลแลน’ ยูทูบเบอร์ชื่อดังสัญชาติเกาหลี ร่วมสร้างปรากฎการณ์ รักแมวในแบบที่เป็น นับเป็นการต่อยอดการเดินทางของแบรนด์จินนี่ที่เติบโตแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น

ที่เราเลือกคัลแลนและพี่จอง เพราะทั้งสองคนมีจิตใจที่รักสัตว์ ที่หลายๆ คนคงได้เห็นได้จากช่อง CullenHateberry ที่ถ่ายทอดความรัก ชวนให้ ‘ใจฟู’ ต่อน้องแมวระหว่างการเดินทาง  ซึ่งสอดคล้องกับแบรนด์ JINNY ที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแมวทุกสายพันธุ์ เพราะ JINNY ไม่ได้แค่ผลิตขนมและอาหารสำหรับแมวเพียงอย่างเดียว แต่คือแบรนด์ที่เข้าใจและยอมรับในความแตกต่างของแมวทุกตัว

คน Gen ใหม่ มองสัตว์เลี้ยง ‘เหมือนลูก’ เปย์หนัก ดันตลาดขนมสัตว์ 7,500 ล้านโตแรง

นายกิติศักดิ์ กล่าวอีกว่า แนวคิดของ JINNY คือ “รักแมวในแบบที่เป็น” บริษัทจึงพัฒนาอาหารแมวเกรดโฮลิสติกหลากหลายสูตรที่มาเติมเต็มในทุกๆความต้องการที่แตกต่างกันไปของน้องแมว โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการร่วมพัฒนาสูตร และคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตมาตรฐานระดับสากล และผ่านการทดสอบการทานที่เข้มข้นจากสถาบันการทดสอบที่เป็นกลาง มาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจด้านรสชาติที่อร่อยควบคู่กับสุขภาพที่ดีตามความต้องการอย่างแท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related