SHORT CUT
ผลกระทบของโลกเดือด ยังแผงแผลงฤทธิ์ทั่วโลก ล่าสุดทำอาหารสัตว์ทั่วโลกพุ่งไม่หยุด ถั่วเหลืองแพงขึ้น ทำคนคนเลี้ยงโคนม-โคเนื้อ ถอดใจเลิก ดันเนื้อ USA ราคาเพิ่ม 20-30%
นับวันปัญหาโลกรวน โลกเดือด จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บางพื้นที่แห้งแล้งหนัก บางพื้นที่ภูเขาน้ำแข็งละลาย บางพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นยะเยือกเป็นประวัติการณ์ โลกรวนไม่เพียงแต่กระทบต่อการใช้ชีวิตผู้คน ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลกที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ รวมไปจนถึงสัตว์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงทำให้หลายประเทศกำลังร่วมมือกันเร่งแก้ไขปัญหานี้อยู่
ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม และอุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยไทยถูกจัดอยู่ในอันดับ 9 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น นโยบายของสหรัฐฯ จึงส่งผลกระทบต่อไทยอย่างมาก
ต้องยอมรับว่าโลกรวนส่งผลกระทบต่อการเกษตร และปศุสัตว์ อย่างแน่นอน #SPRiNG มีโอกาสอัปเดตประเด็นนี้จะหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย มาเริ่มกันที่ นายศิรวัจน์ ปิณฑะดิษ นักวิชาการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาผู้เลี้ยงโคนมทั่วโลกเลี้ยงโคนมลดลงอย่างมีมิติสำคัญ โดยส่วนใหญ่หันไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทนการเลี้ยงโคนม ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลต่อปริมาณน้ำนมดิบที่จะออกสู่ตลาดโลกอย่างแน่นอน และจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
จากความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) จึงทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านความมั่นคงด้านอาหาร จะพามาดูการปรับตัวของแบรนด์ต่างๆ เช่น เนสท์เล่ ได้หาแนวทางสร้างความยั่งยืนด้วยการจัดหาน้ำนมดิบ และร่วมมือกับแหล่งผลิตที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยเนสท์เล่เป็นบริษัทแรกในไทยที่ส่งเสริมการเกษตรฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) เพื่อจัดการฟาร์มโคนมคย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพ และปริมาณน้ำนมดิบ ปกป้องฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร โดยดำเนินงานใน 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาการจัดการอาหาร และโภชนะ การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการนำหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูไปใช้ในฟาร์มโคนม สามารถลดคาร์บอนจากการทำฟาร์มโคนม
โดยในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2018 ที่เป็นปีฐานข้อมูล 2024 ได้ปริมาณน้ำนมดิบโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 กก. ต่อตัวต่อวัน ซึ่งมากว่าค่าเฉลี่ยต่อตัวต่อวันในอดีต รวมทั้งคุณค่าทางโภชนาการในน้ำนมดิบดีขึ้น วัดได้จากระดับโปรตีนในนมที่เพิ่มขึ้นให้ความรู้ และเทคนิคด้านการเกษตรเชิงฟื้นฟูแก่เกษตรกรไปแล้วกว่า 160 ฟาร์มจาก 3 สหกรณ์ ในจังหวัดนครราชสีมา
และมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ได้เริ่มทำการเกษตรเชิงฟื้นฟูครบวงจรแล้วกว่า 40 ฟาร์ม พร้อมกันนี้เนสท์เล่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจในการพัฒนาฟาร์มโคนมอย่างยั่งยืน กับสหกรณ์โคนม 3 แห่งในจังหวังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่าเนสท์เล่จะให้การสนับสนุนการบริหารฟาร์มในราคาที่เป็นธรรม
ต่อมาพามาดูผลกระทบจากโลกรวน แล้วทำให้ราคาอาหารสัตว์พุ่งสูงขึ้น โดย เฉพาะถั่วเหลืองจากบราซิล ที่เป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ของโลก เรื่องนี้ส่งผลกระทบไปยังผู้เลี้ยงโคเนื้อคุณภาพดี โดยเฉพาะเนื้อ USA มีราคาปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยเริ่มได้รับผลกระทบในเรื่องนี้แล้ว
เรื่องนี้ “กณพ ศรีอาวุธ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่าย Food Innovation บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ราคาเนื้อ USA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20-30% ส่งผลกระทบต่อเมนู สเต็ก ข้าวหน้าเนื้อ ทำให้มีการปรับกลยุทธ์ในการขายด้วยการพัฒนาเมนูที่ไม่ใช้เนื้อจำหน่ายในสัดส่วนที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังกระทบไปยังเนื้อออสเตรเลียที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามด้วยเนื่องความต้องการสูงขึ้น และเนื้ออาร์เจนตินา ก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งหมดเป็นผลกระทบจากโลกร้อน แห้งแล้ง ทำให้โลกผลิตอาหารสัตว์ได้ลดลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สายการบินในสวิตฯ “ลดราคาอาหาร” ในเที่ยวบินสุดท้ายของวันเพื่อลดขยะอาหาร
สิงคโปร์ ผุดไอเดีย ลดราคาอาหารขายไม่หมด 80% ตั้งเป้าลดขยะอาหาร