
LINE MAN ขึ้นเบอร์ 1 “คนละครึ่งพลัส” 3 หมื่นร้านค้าลงทะเบียนวันแรก ... สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ บอกอะไรในโลกเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ?
LINE MAN อาจจะมีบทบาทที่เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มส่งอาหาร เมื่อพวกเขากลายเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่ร้านค้าฟู้ดเดลิเวอรี กว่า 32,990 แห่ง เลือกเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ของรัฐ (ข้อมูล ณ พ.ย.) ตัวเลขนี้สะท้อนว่า "ความเชื่อมั่น" ในเทคโนโลยีไทยกำลังก้าวจากการทดลองสู่การเป็น "ระบบเศรษฐกิจจริง"
ตัวเลขร้านค้ากว่า 32,990 แห่ง ที่ใช้ LINE MAN เป็นช่องทางหลักในโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ชี้ให้เห็นถึงการ "เชื่อมโยงเชิงระบบ" ระหว่างแพลตฟอร์มเอกชนกับนโยบายสาธารณะ LINE MAN จึงทำหน้าที่เป็น "โครงสร้างพื้นฐาน" ที่ช่วยให้เม็ดเงินจากนโยบายรัฐไหลสู่ภาคธุรกิจรายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอค่าธรรมเนียม (GP) ที่เริ่มต้นเพียง 7% ในวันแรก และ 9% ตลอดโครงการ ถือเป็นกลยุทธ์ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ค้าได้จริง การลดต้นทุนในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว เป็นการ "ให้โอกาส" ร้านเล็ก ๆ ให้สามารถอยู่รอดและเติบโตในระบบเศรษฐกิจแพลตฟอร์มได้ ถือเป็นแนวคิดเชิงกลยุทธ์แบบ Human-Centered Platform ที่เติบโตไปพร้อมกับผู้ค้า
โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ได้สร้างการไหลเวียนของเม็ดเงินดิจิทัลขนาดใหญ่เข้าสู่ระบบของ LINE MAN
การลงทุนในแคมเปญขนาดใหญ่จึงเป็นการ "กระจายสภาพคล่องดิจิทัล" ที่ตอบโจทย์ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน
ร้านค้ากว่า 30,000 แห่งที่เข้าร่วม หมายถึงการ "ขยายบริการไปยังหัวเมืองและพื้นที่ท้องถิ่น" ที่ไม่เคยอยู่ในระบบมาก่อน ทำให้ร้านอาหารริมทาง แม่ค้าชุมชน หรือผู้ประกอบการรายย่อย ได้โอกาส "ขึ้นออนไลน์" อย่างเป็นระบบครั้งแรก ซึ่งเป็นการสร้างช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานราก
ในมุมภาพกว้างๆ ภาพใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือสัญญาณของ "เศรษฐกิจแพลตฟอร์มเวอร์ชันไทย" ที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อเอกชนและรัฐ "พูดภาษาเดียวกัน" คือภาษาเศรษฐกิจดิจิทัลที่เข้าถึงคนตัวเล็ก เม็ดเงินจากโครงการรัฐจึงไม่เพียงหมุนเวียน แต่ "สร้างมูลค่าใหม่" ให้เศรษฐกิจทั้งระบบ