svasdssvasds

CR-V e:HEV กับ Toyota Fortuner ขุมพลังไฮบริดกับดีเซล ราคาพอกัน คันไหนคุ้มกว่า

CR-V e:HEV กับ Toyota Fortuner ขุมพลังไฮบริดกับดีเซล ราคาพอกัน คันไหนคุ้มกว่า

CR-V e:HEV รถไฮบริดรุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่นจากค่ายฮอนด้า ซึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท จึงน่าสนใจที่จะนำมาเปรียบเทียบกับรถยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล ว่าคันไหนคุ้มค่ากว่ากัน

Honda CR-V e:HEV รถไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายฮอนด้า มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท เรามาดูสเปคกันว่าจะน่าสนใจแค่ไหน และเมื่อเทียบกับรถยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner คันไหนจะคุ้มค่ากว่า หากจะซื้อรถใหม่สักคัน 

เปรียบเทียบสเปค CR-V e:HEV กับ Toyota Fortuner   

Honda CR-V e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน ขนาดเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT 

Toyota Fortuner เครื่องยนต์ดีเซล ขนาดเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด  

ถ้าเทียบกันให้ชัด ปัจจุบันน้ำมันดีเซลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ในขณะที่น้ำมันเบนซินมีราคาอยู่ที่ 36.98 บาท/ลิตร (ราคา ณ วันที่เขียน)

เปรียบเทียบราคา CR-V e:HEV กับ Toyota Fortuner 

ราคา Honda CR-V e:HEV Turbo E อยู่ที่ 1,419,000 บาท

ราคา Toyota Fortuner 2.4V 2WD อยู่ที่ 1,490,000 บาท

เปรียบเทียบการกินน้ำมัน CR-V e:HEV กับ Toyota Fortuner

Honda CR-V e:HEV Turbo E อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20.8 กม./ลิตร

Toyota Fortuner 2.4V 2WD อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 12 กม./ลิตร 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เปรียบเทียบค่าเดินทางระหว่าง Toyota Fortuner กับ CR-V e:HEV 

Honda CR-V e:HEV เดินทางเฉลี่ยอยู่ที่กิโลเมตรละ 1.77 บาท

Toyota Fortuner เดินทางเฉลี่ยอยู่ที่กิโลเมตรละ 2.74 บาท 

ราคาต่อกิโลเมตรที่ได้มาจากการเปรียบเทียบปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาน้ำมัน อัตราสิ้นเปลืองของรถพื้นฐาน ซึ่งอาจคาดเคลื่อนได้ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่

ความคุ้มค่าที่แตกต่าง CR-V e:HEV กับ Toyota Fortuner ถ้าเปรียบเทียบด้วยสเปคเครื่องยนต์ แน่นอนกว่า Toyota Fortuner ใช้เครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของ CR-V e:HEV ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ก็สามารถให้อัตราตอบสนองที่ดีเช่นกัน 

แต่ถ้าเทียบกันด้วยอัตราการกินน้ำมันต่อกิโลเมตร Honda CR-V e:HEV ถูกกว่า Toyota Fortuner ราวๆ 0.97 หรือประมาณ 1 บาท ซึ่งยังคงต้องคำนวณถึงการขึ้นลงของราคาเบนซินที่ผันผวนในปัจจุบัน แต่ราคาน้ำมันดีเซลมีการปรับตัวไม่มาก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของรถยนต์ดีเซล 

หากเปรียบเทียบกันในเรื่องขนาดของตัวรถต้องยกให้ Toyota Fortuner เพราะเป็นรถ PPV อเนกประสงค์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถ SUV อย่าง Honda CR-V e:HEV 

ในสองรุ่นนี้หากจะขายต่อเพื่อเปลี่ยนรุ่น ปัจจุบันราคารถยนต์ทั้ง Toyota และ Honda ถือว่าไม่ตกมากเท่ารถยุโรป ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็มีราคาที่คงที่ไม่แพ้กัน 

สรุปแล้วหากใครที่ไม่กังวลเรื่องค่าน้ำมันเบนซินที่ขึ้นลงและอยากได้รถเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็คงต้องเลือก Honda CR-V e:HEV แต่หากใครอยากใช้รถยนต์ดีเซล ดูแลง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันขึ้นลง ได้อัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรที่คงที่ Toyota Fortuner ก็ตอบโจทย์

ที่มา : zigwheels

related