เผยอุปสรรค 7 ข้อ ชี้ให้เห็นว่าทำไม? ธุรกิจสตาร์ทอัปในไทยไม่เติบโต

ยุทธนา ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนา หรือการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัปไทย โดยระบุถึงข้อจำกัดที่ผ่านมาว่า ธุรกิจสตาร์ทอัปในไทยในปัจจุบันยังคงมีขีดจำกัดหลากหลายข้อ ซึ่งจากการสำรวจสมาชิกสมาคม Thai Startup เราพบอุปสรรค 7 ข้อ เรียงตามลำดับความสำคัญจากมากไปน้อยดังนี้

1. ขาดแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะสำหรับช่วงเริ่มต้น
2. ขาดแคลนโปรแกรมเมอร์มาช่วยสร้างเทคโนโลยี
3. วิธีหาเงินจากธุรกิจยังไม่ชัดเจน
4. ความสามารถในการบริหารธุรกิจยังไม่เฉียบคม
5. กฎหมายบางเรื่องเป็นข้อจำกัดต่อการขยายธุรกิจและการรับเงินลงทุน
6. กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีขั้นตอนค่อนข้างมาก ไม่เอื้อให้ Startup เสนอตัวเข้าไปร่วมพัฒนาประเทศได้
7. ตลาดไทยตอบรับแพลตฟอร์มต่างชาติได้ดีกว่าเทคโนโลยีของสตาร์ทอัปไทยด้วยกันเอง
 

ถ้าแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้ได้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ สตาร์ทอัปไทยจะได้ประโยชน์ แต่ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สามารถดึงดูดผู้ผลิตเก่งๆ ทั้งคนต่างประเทศรวมถึงคนไทยที่อยู่ต่างประเทศให้กลับช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยี Made in Thailand ด้วยกันได้เลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ดิจิทัลสตาร์ทอัป “Multiverse Expert” ขึ้นเป็น ว่าที่ยูนิคอร์นรายที่ 4 ในไทย
• สตาร์ทอัป สิงค์โปร์แรง ขึ้นนำมีบริษัท ยูนิคอร์น และ เดคาคอร์นมากสุดใน SEA
• เทเลนอร์ ร่วมมือ ซีพี ทุ่มงบ 7.3 พันล้านบาท หนุนสตาร์ทอัปไทยให้ไปไกลระดับโลก

รัฐบาลควรจะสร้างคนให้สามารถคิดสตาร์ทอัปได้ หรือแค่สนับสนุนคนที่คิดได้แล้วให้มีทางเดินต่อ? 

รัฐไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ในเมื่อรัฐมีศักยภาพสนับสนุนคนได้ทั้ง 2 กลุ่ม เพราะหน้าที่ของรัฐควรเป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมสนับสนุนให้คนในประเทศได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศ และคนทั้ง 2 กลุ่มก็สามารถสร้างประเทศได้เหมือนกัน

ถ้ามีคนกำลังสนใจมองหาไอเดียทำธุรกิจ Startup ภาครัฐควรกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้กล้าคิดกล้าลงมือทำมากขึ้น ถ้าเราต้องการ Startup ดีๆ เราต้องเริ่มจากมีคนอยากทำ Startup ให้มากพอก่อน

Startup เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้คน โดยได้ผลลัพธ์เป็นมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแถม ดังนั้น เมื่อรัฐพบคนอีกกลุ่มที่เริ่มต้นทำ Startup แล้ว คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นผู้เสียภาษีของประเทศ หน้าที่ของรัฐก็ควรสนับสนุนให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตไปต่อได้ ช่วยเขากำจัดอุปสรรคที่กระทบต่อการเติบโต

วันหนึ่งเขาจะได้กลายเป็น Startup ที่แข็งแรง ยิ่งมีมากก็จะยิ่งเกิดธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจพร้อมกับแก้ปัญหาต่างๆ ให้สังคมได้มากขึ้นด้วย ถ้าเราทำได้ดี เราสามารถเปลี่ยนประเทศไทยจากฐานะเพียงผู้ใช้ปสู่ประเทศแห่งผู้ผลิตได้เลย