ส่องเทรนด์ดิจิทัลปี 2022 อนาคตของหุ่นยนต์ (Robotics) จะเป็นอย่างไร

หุ่นยนต์ (Robotics) หรือ วิทยาการหุ่นยนต์คืออะไร?

หุ่นยนต์อยู่ใกล้ตัวเรามาอย่างยาวนาน เช่น R2-D2, Prime Optimus และ WALL-E การเป็นตัวแทนของหุ่นยนต์ที่เกินจริงเหล่านี้มักจะดูเหมือนการล้อเลียนของจริง แต่จริง ๆ แล้วพวกมันอาจล้ำยุคกว่าที่เราคิด หุ่นยนต์กำลังพัฒนาทักษะทางกลและทางปัญญาซึ่งไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ของเครื่องจักรที่เหมือน R2-D2 ในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• เบื้องหลัง 5 แนวคิด หุ่นยนต์ส่งของสุดคิ้วท์ เดินหน้าปั้นทักษะ AI-Robotics
• รู้จัก "หุ่นยนต์ดินสอ" ฝีมือคนไทย ดูแลผู้ป่วย-ช่วยชีวิตมนุษย์ให้ง่ายขึ้น
• ญี่ปุ่นผลิต หุ่นยนต์ 4 ขา ตัวแรกของโลก เดินได้เอง ขี่ได้เหมือนนั่งบนหลังช้าง

ในภาคอุตสาหกรรม หุ่นยนต์มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้จะเติบโตต่อไปเมื่อเวลาผ่านไป อุตสาหกรรม บริษัท จะยิ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับหุ่นยนต์มากขึ้น

และเราลองมาดูกันว่า อนาคตหุ่นยนต์ในปีหน้าจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง? 

Robotics มุ่งสร้างเครื่องจักรอัจฉริยะเพื่อช่วยให้ผู้คนและธุรกิจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โรคระบาดได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิตส่วนตัวของเราและโลกแห่งเทคโนโลยีก็ต้องพัฒนาช้าลงเนื่องจาก Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานต่ำลง

 

เทคโนโลยีหุ่นยนต์จะสามารถทำให้โรงงานธรรมดาๆกลายเป็น “โรงงานอัจฉริยะ” (Smart Factory)

การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่างผสมผสานกันเพื่อสร้างกำลังการผลิตที่มีความยืดหยุ่นสูงและปรับเปลี่ยนได้เอง ซึ่งเรียกว่า “โรงงานอัจฉริยะ”

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจต่างๆ เช่น การผลิตและการจัดจำหน่ายจะพัฒนาความฉลาดมากขึ้นเช่นเดียวกับหุ่นยนต์ สายการประกอบจะได้รับประโยชน์จากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและโซลูชันอัตโนมัติ และโรงงานอัจฉริยะจะกลายเป็นบรรทัดฐาน

ด้วยเหตุนี้ เราควรคาดการณ์กระบวนการที่รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแม่นยำยิ่งขึ้นโดยมีข้อผิดพลาดน้อยลง หุ่นยนต์และหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMRs) จะมีปฏิสัมพันธ์กันในอนาคต ทำให้โรงงานไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามากและลดการใช้แรงงานจากมนุษย์

โรงงานอัจฉริยะอาจได้รับประสิทธิภาพมากกว่าและยังมีความยืดหยุ่นมากกว่าในด้านการทำงาน โดยการเชื่อมต่อกระบวนการต่างๆ กระแสข้อมูล พนักงานแนวหน้า นักวางแผน ทำแค่เพียงควบคุม ซึ่งจะช่วยให้การทำงานสะดวกสบายขึ้นมาก

ระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการหุ่นยนต์ (RPA)

การทำงานซ้ำซ้อนจะถูกหุ่นยนต์มาแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม 

โรงพยาบาลหลายแห่งได้นำ RPA ไปใช้เพื่อทำให้กระบวนการเป็นไปโดยอัตโนมัติ รวมถึงการจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการการออกใบแจ้งหนี้ และการจัดตารางนัดหมาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีเวลามากขึ้นให้กับกิจกรรมที่สำคัญอื่นๆ

หุ่นยนต์บริการ (RaaS)

ความเชี่ยวชาญของพนักงานและค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจำนวนมากเป็นอุปสรรคสำคัญสองประการสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในการรวมหุ่นยนต์เข้ากับโรงงานผลิตของตน อย่างไรก็ตาม เทรนด์ของบริการทุกอย่าง (*aaS) ที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยขจัดปัญหานี้ 

ขณะนี้ RPA พร้อมใช้งานสำหรับบริษัทต่างๆ ผ่านโมเดล Robots-as-a-Service (RaaS)

โซลูชันแบบสมัครสมาชิกเหล่านี้ เช่น Meili FMS มักจะมาพร้อมกับการวิเคราะห์ การตรวจสอบ และการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน นอกเหนือไปจากข้อดีอื่นๆ เช่น การปรับขนาดที่รวดเร็วและความยืดหยุ่นในการปรับแพลตฟอร์มได้ตามความต้องการ

หุ่นยนต์อเนกประสงค์

ตลาด AMR มีการพัฒนาอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการค้าปลีก เนื่องจากภาคอีคอมเมิร์ซที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สำหรับงานประจำในการปฏิบัติงาน เช่น การเคลื่อนย้ายสินค้าและการทำความสะอาดพื้น ผู้จัดการร้านค้าปลีกจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการนำหุ่นยนต์มาใช้

ผู้ค้าปลีกคาดว่าจะเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์แบบมัลติทาสกิ้งในทีมของตนเพื่อรองรับความต้องการและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า ในขณะที่สร้างเวิร์กโฟลว์ดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ

โคบอทส์หรือที่มักเรียกกันว่าหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานกำลังเข้ามาแทนที่พนักงานที่เป็นมนุษย์ในหลายอาชีพอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมักจะทำงานเร็วกว่าและมีประสิทธิผลมากกว่า 

จุดประสงค์ของหุ่นยนต์คือเพื่อแทนที่อาชีพที่มีความเสี่ยงและซ้ำซาก เพื่อให้พนักงานที่เป็นมนุษย์สามารถมีสมาธิกับงานที่สำคัญกว่าได้

หุ่นยนต์ส่งของจะได้รับความนิยมใช้มากขึ้น

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตลาดสำหรับหุ่นยนต์ส่งของคาดว่าจะขยายตัวอย่างมาก ตลาดมีมูลค่า 188 ล้านยูโรในปี 2564 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 850 ล้านยูโรภายในปี 2569 ในช่วงที่คาดการณ์ไว้ นั่นคือที่อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 35.1 เปอร์เซ็นต์

ภาคการค้าปลีกคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้ การลดลงของราคาของการส่งมอบระยะสุดท้ายและการเพิ่มขึ้นของเงินร่วมลงทุนเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการขยายตัวของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีความต้องการหุ่นยนต์ส่งของที่เพิ่มขึ้นในภาคอาหารและเครื่องดื่มและการค้าปลีก

มลพิษทางคาร์บอนจะลดลงโดยหุ่นยนต์

การลงทุนในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ล้ำสมัยจะได้รับการสนับสนุนจากความปรารถนาที่จะลดผลกระทบจากคาร์บอนให้น้อยลง เนื่องจากประสิทธิภาพด้านพลังงาน หุ่นยนต์สมัยใหม่จึงลดการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมลงทันที 

หุ่นยนต์ยังช่วยผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอุปกรณ์พลังงานหมุนเวียนสองประเภท

หุ่นยนต์กำลังแพร่หลายมากขึ้นในเกือบทุกส่วนของชีวิตประจำวันอันเป็นผลมาจากการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่อง (ML) อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)  

ในช่วงต้นของการแพร่ระบาด การใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์โดยธุรกิจและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งเร่งการพัฒนาหุ่นยนต์ให้เร็วขึ้น การปฏิวัติหุ่นยนต์จะดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วในปี 2565

ที่มา : marktechpost , builtin ,analyticssteps, meilirobots , automate