SHORT CUT
คินดริลเปิดตัว ASEAN AI Innovation Lab ที่สิงคโปร์ ตั้งเป้าเป็นฮับ AI ป้อนโซลูชันให้องค์กรทั่วภูมิภาค รวมถึงไทย พร้อมจ้างผู้เชี่ยวชาญ 50 ตำแหน่ง
คินดริล (Kyndryl) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกาศเปิดตัว "ASEAN AI Innovation Lab" อย่างเป็นทางการ ณ ประเทศสิงคโปร์
โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ปลอดภัยและเปี่ยมประสิทธิภาพสูงให้แก่องค์กรธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แล็บแห่งใหม่นี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่รวบรวมเทคโนโลยี, ซอฟต์แวร์ และโซลูชันวิศวกรรมแพลตฟอร์มเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านบริการให้คำปรึกษาอย่าง Kyndryl Consult และกระบวนการสร้างสรรค์ร่วมกับลูกค้าอย่าง Kyndryl Vital เพื่อรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจที่ซับซ้อนในปัจจุบัน
โดยคินดริลตั้งเป้าจ้างงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ประจำสิงคโปร์กว่า 50 ตำแหน่ง ทั้งนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, วิศวกรข้อมูล และนักพัฒนา AI เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสนับสนุนการเติบโตในภูมิภาค
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของคินดริลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรยักษ์ใหญ่ทั้ง Google Cloud และ Digital Industry Singapore (DISG)
ซึ่ง Google Cloud จะสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ชั้นนำอย่าง Vertex AI, BigQuery และ Agent Development Kit (ADK) เพื่อเร่งให้องค์กรสามารถนำ AI ไปปรับใช้ได้รวดเร็วและวัดผลได้จริง
นายกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ กรรมการผู้จัดการ คินดริล ประเทศไทย กล่าวว่า
"การเปิดตัว ASEAN AI Innovation Lab เป็นการย้ำความมุ่งมั่นของ Kyndryl ในการช่วยให้ธุรกิจไทยใช้ AI ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่มาพร้อมความรับผิดชอบ และสร้างมูลค่าในระยะยาว"
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายระดับชาติด้าน AI ของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
แล็บแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ เข้าใจและใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ แต่ยังนำเสนอกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริงในอาเซียน
เช่น การใช้ AI ช่วยปรับปรุงกระบวนการฝึกอบรมในอุตสาหกรรมบริการ (Frasers Hospitality), การวิเคราะห์ภาพเอ็กซเรย์อัตโนมัติในธุรกิจโลจิสติกส์ (Vietnam SuperPort™) และการเพิ่มประสิทธิภาพการจับคู่งานในแพลตฟอร์มจัดหางาน (Quest)
การจัดตั้งแล็บนี้ยังเกิดขึ้นในบริบทที่รายงาน "People Readiness Report 2025" ของคินดริล ชี้ให้เห็นว่า
"แม้ 95% ของธุรกิจจะลงทุนใน AI แล้ว แต่ 71% ของผู้นำยอมรับว่าบุคลากรยังไม่พร้อมใช้เทคโนโลยีนี้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งแล็บแห่งนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดช่องว่างดังกล่าวและยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมสำหรับอนาคต"