อนาคตแพลตฟอร์ม TikTok ยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย และความไม่แน่นอน แต่ ทำเนียบขาว เลือกเปิดบัญชี TikTok อย่างเป็นทางการ
ทำเนียบขาวภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความประหลาดใจและสับสนไปทั่วโลก ด้วยการเปิดบัญชี TikTok อย่างเป็นทางการในชื่อ "@whitehouse" แม้ว่าอนาคตของแอปพลิเคชันสัญชาติจีนนี้ในสหรัฐอเมริกายังคงแขวนอยู่บนเส้นด้ายจากคำสั่งแบนที่รัฐบาลเคยผลักดัน
บัญชีดังกล่าวได้เริ่มโพสต์วิดีโอโปรโมตผลงานของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างต่อเนื่อง โดยมีเนื้อหาปลุกใจและใช้สโลแกนที่เคยใช้ในการหาเสียง เช่น "ผมคือเสียงของคุณ" และ "ผมเคยถูกล่า แต่ตอนนี้ ผมเป็นผู้ล่าแล้ว" การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการตั้งคำถามจากสาธารณชนถึงความเหมาะสมและนโยบายที่ย้อนแย้งของรัฐบาล และเวลานี้ผ่านไป 1 วัน มีผู้ติดตามแล้ว ราวๆ 2.4 แสนบัญชีแล้ว
ความสับสนดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ เองได้เคยผลักดันกฎหมายในปี 2024 ที่กำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 19 มกราคม 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบนทั่วประเทศ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติและความกังวลว่าข้อมูลของผู้ใช้งานชาวอเมริกันอาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงกำหนดเส้นตาย ประธานาธิบดีทรัมป์กลับเลือกที่จะไม่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวในทันที และได้ขยายเวลาตัดสินใจออกไปหลายครั้ง โดยกำหนดเส้นตายล่าสุดคือวันที่ 17 กันยายนที่จะถึงนี้ การเลื่อนกำหนดเส้นตายนี้ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกรัฐสภาบางส่วนว่ารัฐบาลกำลังเพิกเฉยต่อข้อกังวลด้านความมั่นคง
โฆษกทำเนียบขาวได้ชี้แจงว่า การเปิดบัญชี TikTok เป็นไปเพื่อ "สื่อสารความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้มอบให้กับประชาชนชาวอเมริกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" และเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี
การวิเคราะห์จากสื่อหลายสำนักชี้ให้เห็นถึงเหตุผลเชิงกลยุทธ์เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้:
การเข้าถึงฐานเสียงวงกว้าง: TikTok มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากกว่า 170 ล้านคน ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวงกว้างได้โดยตรง
ความสำเร็จในการหาเสียง: บัญชี TikTok ส่วนตัวของทรัมป์ "@realdonaldtrump" ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปีก่อน โดยมีผู้ติดตามหลายล้านคนและมียอดวิวสูงถึงหลักสิบล้านวิวในหลายคลิปวิดีโอ
เปลี่ยนจุดยืนเพื่อความได้เปรียบ: ทรัมป์อาจเปลี่ยนมุมมองจากที่เคยสนับสนุนการแบน มาเป็นการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้เพื่อสร้างอิทธิพลและสื่อสารกับประชาชนโดยตรง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่รัฐบาลอื่นไม่เคยทำมาก่อน
การที่ทำเนียบขาวเปิดบัญชี TikTok จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัฐบาลของทรัมป์กำลังเลือกที่จะใช้ประโยชน์จากพลังการสื่อสารของแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมหาศาล แม้จะต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์ในประเด็นความมั่นคงและนโยบายที่ขัดแย้งกันเองก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการเดินเกมการเมืองที่อาจกำลังจัดลำดับความสำคัญของการเข้าถึงประชาชนโดยตรงไว้เหนือกว่าข้อกังวลด้านความมั่นคงที่เคยเป็นเหตุผลหลักในการผลักดันให้แบนแอปพลิเคชันนี้ ซึ่งอนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร คงต้องจับตาดูกันต่อไปหลังเส้นตายในเดือนกันยายน
ที่มา : reuters