Google ถูกสื่อใหญ่ฟ้อง กรณี AI Overviews ทำคนไม่เข้าเว็บ รายได้หด

Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ AI Overviews ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์สรุปข้อมูลจากหน้าผลการค้นหา ก็ถึงคราวเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายครั้งสำคัญ

เมื่อ Penske Media กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของสื่อชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Rolling Stone, Variety, และ Billboard ได้ยื่นฟ้องร้อง Google โดยกล่าวหาว่าเทคโนโลยีดังกล่าวได้นำเนื้อหาจากเว็บไซต์ในเครือไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

ในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. Penske Media อ้างว่าฟีเจอร์ AI นี้ "กำลังดูดและกีดกันทราฟฟิกของผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ของ PMC และผู้เผยแพร่อื่นๆ" ซึ่งจะส่งผลให้ "รายได้ที่เกิดจากการเข้าชมเหล่านั้นลดลง" อย่างมีนัยสำคัญ

Penske Media ระบุในคำฟ้องว่า ปัจจุบันประมาณ 20% ของการค้นหาใน Google ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ในเครือมี AI Overviews แสดงผลอยู่

ซึ่งบริษัทคาดการณ์ว่าสัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเปิดเผยข้อมูลว่ารายได้จาก Affiliate ของบริษัทในช่วงปี 2024 ได้ลดลงมากกว่าหนึ่งในสามจากจุดสูงสุด

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Google ถูกฟ้องร้องโดยสำนักพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับความสามารถในการค้นหาด้วย AI

โดยก่อนหน้านี้ Google เคยเผชิญกับคดีที่คล้ายกันจาก Chegg บริษัทเทคโนโลยีการศึกษาซึ่งกล่าวหาว่า AI Overviews ส่งผลกระทบต่อทราฟฟิกและรายได้ของเว็บไซต์เช่นกัน

ด้าน โฆษกของ Google, Jose Castaneda ได้ออกมาตอบโต้ โดยยืนยันว่าบริษัทจะ "ต่อสู้กับข้อกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลความจริงเหล่านี้" และชี้แจงว่า "AI Overviews ช่วยส่งทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ที่หลากหลายมากขึ้น"

กรณีพิพาทนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ Google เพียงรายเดียว แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างบริษัทเทคโนโลยี AI และผู้สร้างสรรค์เนื้อหา ในปี 2023

The New York Times ได้ยื่นฟ้อง OpenAI โดยอ้างว่ามีการนำบทความข่าวไปใช้ในการฝึกฝนแชทบอทโดยไม่มีการชดเชย

ขณะที่ล่าสุด Anthropic ก็ได้ตกลงที่จะจ่ายเงินชดเชยกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม เกี่ยวกับการใช้ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ในแชทบอท Claude ของตน

สถานการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความท้าทายครั้งใหญ่ในการหาจุดสมดุลระหว่างการพัฒนานวัตกรรม AI และการเคารพสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งผลลัพธ์ของคดีเหล่านี้อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างผู้พัฒนาเทคโนโลยีและผู้ผลิตเนื้อหาในอนาคต

ที่มา : Engadget