svasdssvasds

Google Labs คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง ห้องทดลอง AI เปิดให้ลองใช้ฟรี

Google Labs คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง ห้องทดลอง AI เปิดให้ลองใช้ฟรี

Google Labs พื้นที่เปิดให้ผู้ใช้ทดลอง AI ก่อนใคร ตั้งแต่โค้ช AI ส่วนตัว จนไปถึงห้องลองเสื้อเสมือนจริง นี่คือกลยุทธ์สำคัญที่ Google กำลังจะเปลี่ยนโลก

SHORT CUT

  • Google Labs คือ "แซนด์บ็อกซ์" ที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบและลดความเสี่ยงของแนวคิด AI ล้ำสมัยกับผู้ใช้จริง ก่อนนำไปต่อยอดในผลิตภัณฑ์หลัก
  • Google Labs ทำหน้าที่แปลเทคโนโลยี AI ที่ซับซ้อนจาก DeepMind เช่น Gemini และ Veo ให้กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย
  • แม้ Google Labs จะเปิดให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม แต่การเข้าถึงโครงการใหม่ๆ ยังมีข้อจำกัดด้านภูมิภาค สะท้อนถึงแนวทางการปล่อยเทคโนโลยีใหม่อย่างระมัดระวังและมีการควบคุม

Google Labs พื้นที่เปิดให้ผู้ใช้ทดลอง AI ก่อนใคร ตั้งแต่โค้ช AI ส่วนตัว จนไปถึงห้องลองเสื้อเสมือนจริง นี่คือกลยุทธ์สำคัญที่ Google กำลังจะเปลี่ยนโลก

Google ได้เปิดตัว "Google Labs" แพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือนสนามทดลอง AI สาธารณะ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้สัมผัสและทดลองเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ล่าสุดที่ยังอยู่ในขั้นพัฒนาโดยตรงจากทีมวิศวกรของ Google

ไม่ใช่เพียงแค่การจัดแสดงเทคโนโลยีต้นแบบ แต่ Labs คือกลไกเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงงานวิจัย AI ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัทเข้ากับผู้ใช้งานจริง เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

Google Labs ทำอะไรได้บ้าง?

  • Flow : สตูดิโอภาพยนตร์ AI ในมือคุณ Flow คือหนึ่งในโครงการที่โดดเด่นที่สุดใน Labs โดยเป็นเครื่องมือสร้างภาพยนตร์ด้วย AI ที่ออกแบบมาเพื่อนักสร้างสรรค์และนักเล่าเรื่องโดยเฉพาะ

  • Doppl : พลิกโฉมการชอปปิงออนไลน์ด้วยห้องลองเสื้อผ้าเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ผู้ใช้สามารถสร้าง "ฝาแฝดดิจิทัล" ของตนเองและลองเสื้อผ้าจากแบรนด์ต่างๆ ได้ทันทีผ่านสมาร์ตโฟน พร้อมชมวิดีโอแอนิเมชันที่แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวของเนื้อผ้าอย่างสมจริง

CREDIT : Google Labs

  • Portraits : นำความรู้จากผู้เชี่ยวชาญมาสู่ปลายนิ้วคุณผ่าน "โค้ช AI" ที่สามารถโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ โครงการนี้ได้จำลอง Kim Scott นักเขียนชื่อดัง มาเป็นโค้ชให้คำปรึกษาด้านภาวะผู้นำ โดยใช้โมเดล Gemini และเทคโนโลยีโคลนนิ่งเสียงเพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมจริง

CREDIT : Google Labs

  • Opal และ Whisk : มอบพลังให้นักสร้างสรรค์ยุคใหม่ Opal เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้าง "AI mini-apps" ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว ในขณะที่ Whisk ปฏิวัติการสร้างภาพด้วย AI โดยใช้ "รูปภาพ" เป็นคำสั่ง (Prompt) แทนข้อความ ทำให้ผู้ใช้สามารถผสมผสานสไตล์และองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างอิสระ

โดย Google Labs ยังมีโครงการอื่นๆที่เปิดให้ทดลองใช้งาน โดยสามารถเข้าไปที่ https://labs.google/ เพื่ออัปเดตข้อมูลข่าวสารได้ทันที

การทำงานของ Google Labs เป็นมากกว่าสนามเด็กเล่นทางเทคโนโลยี แต่เป็น "วาล์วระบายความปลอดภัย" และกลไกบริหารความเสี่ยงที่สำคัญยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์หลักมูลค่ามหาศาลของ Google

แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ Google สามารถทดสอบฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ ที่อาจมีความเสี่ยงกับกลุ่มผู้ใช้ที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมีความเข้าใจและพร้อมรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

สิ่งนี้ทำให้ Google สามารถเรียนรู้และคัดกรองไอเดียที่ไม่ประสบความสำเร็จออกไปได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและประสบการณ์การใช้งานของผลิตภัณฑ์หลักที่มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคน เช่น Google Search, Workspace หรือ Google Cloud

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือฟีเจอร์ AI Overviews ใน Google Search ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นโครงการทดลองใน Labs ก่อนจะถูกพัฒนาและผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริการหลักในปัจจุบัน แสดงให้เห็นเส้นทางที่ชัดเจนจากห้องทดลองสู่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

โครงการทั้งหมดใน Google Labs ขับเคลื่อนด้วยโมเดลปัญญาประดิษฐ์พื้นฐานที่ทรงพลังที่สุดของ Google ซึ่งพัฒนาโดย Google DeepMind และ Google Research

ไม่ว่าจะเป็น Gemini ที่เป็นกระดูกสันหลังของโครงการส่วนใหญ่ หรือ Imagen และ Veo ที่เป็นเบื้องหลังเครื่องมือสร้างภาพและวิดีโออันน่าทึ่ง

Google Labs ได้ทำหน้าที่เป็น "สะพาน" เชื่อมระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนในห้องวิจัย ให้กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้คนสามารถจับต้องและเข้าใจได้ง่าย

CREDIT : Google Labs

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อจำกัดสำคัญคือโครงการที่น่าสนใจส่วนใหญ่มักเปิดให้ทดลองใช้งานเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก

ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีการควบคุม ก่อนจะขยายผลไปสู่ผู้ใช้งานทั่วโลกในลำดับถัดไป

ที่มา : Google Labs

related