Gen Alpha เจเนอเรชันเกิดหลังปี 2010 ก้าวขึ้นเป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ ใช้จ่ายเกิน 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และมีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจซื้อของครอบครัว
ใครจะคิดว่าเด็กที่ยังไม่มีใบขับขี่หรือบัตรเครดิตในชื่อตัวเอง จะมีพลังทางเศรษฐกิจมหาศาลขนาดนี้? รายงานล่าสุดเผยว่า “เจเนอเรชันอัลฟ่า” (Gen Alpha) ซึ่งหมายถึงเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา กำลังสร้างการใช้จ่ายตรงกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือเกือบเท่ากับมูลค่า GDP ของประเทศบัลแกเรียทั้งประเทศ
แม้จะยังอายุน้อยเกินกว่าจะเปิดบัตรเครดิตเองได้ แต่การสำรวจผู้ปกครองชาวอเมริกันราว 1,000 ครอบครัวพบว่า 42% ของการใช้จ่ายในบ้านได้รับอิทธิพลจากความคิดเห็นของลูกในวัย 8–14 ปี และถ้าบ้านไหนมีรายได้สูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อปี ตัวเลขนี้เพิ่มเป็น 49% เลยทีเดียว ตั้งแต่ของกินในมื้อเย็น เสื้อผ้า ไปจนถึงทริปท่องเที่ยว เด็ก ๆ กลายเป็น “ที่ปรึกษา” คนสำคัญของพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว
แล้วเด็ก ๆ เอาเงินมาจากไหน? นอกจากการทำงานบ้านแลกค่าขนมแบบรุ่นก่อน ๆ แล้ว Gen Alpha ยุคนี้ยัง หารายได้เองผ่านเทคโนโลยี ถึง 91% ของเด็กที่ถูกสำรวจมีรายได้จากแหล่งอื่นนอกจากค่าขนม เช่น 40% รับงานเล็ก ๆ นอกบ้าน หรือบางส่วนทำเงินจากการเล่นโซเชียลมีเดีย
Gen Alpha ใช้เวลาเฉลี่ยมากกว่าสองชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการช้อปปิ้งออนไลน์ และเว็บไซต์ยอดนิยมที่เด็ก ๆ เอ่ยถึงบ่อยที่สุดคือ Roblox และ Nike ตามมาด้วย Amazon, Shein, Temu และ TikTok
สิ่งที่น่าสนใจคือแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มผสานโลกจริงกับโลกเสมือน Roblox มีผู้ใช้งานพร้อมกันมากกว่า 25 ล้านคนต่อวัน และล่าสุดเปิดให้ซื้อสินค้าจริงในเกม พร้อมรับของเสมือนสำหรับอวตารไปพร้อมกัน ส่วน Nike ก็สร้างโลกเสมือน “Nikeland” ตั้งแต่ปี 2021 ให้เด็ก ๆ เล่นเกมไปพร้อมกับซื้อรองเท้าดิจิทัล
พูดง่าย ๆ คือ แม้แต่แพลตฟอร์มที่เคยถูกมองว่าเป็น “ของเล่นเด็ก” ตอนนี้กลับกลายเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์เต็มรูปแบบที่พร้อมจะดูดเงินจากบัตรเครดิตของพ่อแม่
นักวิจัยคาดการณ์ว่า ภายในปี 2029 Gen Alpha จะมีอำนาจการใช้จ่ายรวมกว่า 5.46 ล้านล้านดอลลาร์ อานิสงส์จากทั้งขนาดประชากรที่จะโตถึง 2 พันล้านคน และความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีตั้งแต่เกิด
ที่มา fortune
ข่าวที่เกี่ยวข้อง