เปิด 5 แนวทางเปลี่ยนโลก จาก Tellscore ครีเอเตอร์ควรเน้น ความน่าเชื่อถือ

โลกที่ AI กำลังจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา : ทำไม 'ความน่าเชื่อถือ' คืออาวุธสำคัญของครีเอเตอร์มนุษย์

ในยุค AI กำลังก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุตสาหกรรม คำถามสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงในเวทีโลกคือ: อนาคตของอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์จะเป็นอย่างไร? สัญญาณเตือนและคำแนะนำที่น่าสนใจดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของโลก ในงาน Thailand Influencer Awards 2025 โดย สุวิตา จรัญวงศ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore แพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำ ให้ความเห็นไว้ว่า "ในอนาคตอันใกล้ AI จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่วันนี้ครีเอเตอร์ที่เป็นมนุษย์จึงควรเน้น Trust Authenticity (ความไว้วางใจและความจริงแท้)"

นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำแนะนำ แต่คือการชี้ทิศทางรอดและรุ่งสำหรับ "มนุษย์" ในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creator Economy) ที่กำลังถูกท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อ AI ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป 

ปรากฏการณ์ของ AI Creator ที่สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ด้วยตนเอง หรือโต้ตอบกับผู้คนได้อย่างเป็นอิสระนั้น ไม่ใช่เรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป แม้ในปัจจุบัน AI จะแฝงตัวอยู่ในอัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียที่เราใช้งานกันทุกวัน แต่การมาถึงของ AI ที่มีความสามารถซับซ้อนขึ้น กำลังส่งสัญญาณว่าสมรภูมิการสร้างคอนเทนต์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล

สุวิตา จรัญวงศ์ ชี้ว่า แม้ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 20-30% ต่อปี แต่ความกังวลต่ออิทธิพลของ AI ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่จุดจบของครีเอเตอร์ที่เป็นมนุษย์ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวครั้งใหญ่ เพราะสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ คือ "ความน่าเชื่อถือและความจริงแท้" (Trust & Authenticity) ซึ่งกำลังจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่หาได้ยากและมีมูลค่าสูงสุดในอนาคต

เปิด 5 แนวทาง สำหรับครีเอเตอร์มนุษย์ในยุค AI 

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ Tellscore ได้นำเสนอ 5 แนวทางสำคัญ (Themes) ที่เป็นเหมือนแผนที่นำทางให้ครีเอเตอร์มนุษย์สามารถสร้างความได้เปรียบและเติบโตต่อไป

1.ยกระดับสู่การเป็นผู้พิทักษ์แบรนด์ (Focus on Brand): ในโลกที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI ความสามารถของมนุษย์ในการทำความเข้าใจแก่นแท้ของแบรนด์และสื่อสารไปยังหัวใจของผู้บริโภคได้อย่างจริงใจ จะกลายเป็นทักษะที่มีค่ามหาศาล ครีเอเตอร์จะไม่ใช่แค่ผู้สร้างเนื้อหา แต่เป็น "ผู้พิทักษ์ความน่าเชื่อถือ" ของแบรนด์

2.มองให้ลึกกว่ายอดผู้ติดตาม (Deeper Influencer Selection): ยุคของการวัดผลด้วยตัวเลขผิวเผินกำลังจะหมดไป การเลือกอินฟลูเอนเซอร์จะมุ่งเน้นไปที่ "บทบาท" และความเชื่อมโยงที่แท้จริงระหว่างตัวตนของครีเอเตอร์กับสารที่แบรนด์ต้องการจะสื่อ สิ่งนี้ต้องการความเข้าใจในมิติของมนุษย์ที่อัลกอริทึมยังตามไม่ทัน

3.เจาะตลาด B2B ผ่านพื้นที่ส่วนตัว (Targeting B2B Decision Makers): ผู้นำองค์กรอาจเสพสื่อกระแสหลักในเวลาทำงาน แต่ในช่วงเวลาพักผ่อน พวกเขาก็คือผู้ชมคนหนึ่งที่เปิดรับคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ นี่คือ "พื้นที่สบายๆ" (Casual Space) ที่ครีเอเตอร์มนุษย์สามารถสร้างอิทธิพลต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ

4.เอาตัวเองออกจากอัลกอริทึม (Beyond the Algorithm): การสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกออนไลน์อีกต่อไป ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จเริ่มขยายจักรวาลของตนเองไปสู่งานอีเวนต์และกิจกรรมออฟไลน์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่จับต้องได้และลึกซึ้งเกินกว่าที่อัลกอริทึมจะมอบให้

5. เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์เป็นธุรกิจ (Creative Tactics & Creator-Preneurship): อนาคตไม่ได้มีแค่การสร้างเนื้อหา แต่คือการสร้าง "ธุรกิจ" รอบตัวตน ครีเอเตอร์จะกลายเป็นผู้ประกอบการ (Creator-Preneur) ที่ใช้กลยุทธ์สร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง ตั้งแต่เทคนิคการถ่ายทำไปจนถึงการสร้างโมเดลธุรกิจของตนเอง