SHORT CUT
OpenAI ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ที่เปลี่ยน AI จากของเล่น สู่เครื่องมือสร้างสรรค์ในชีวิตจริง เปิดตัว GPT-5 Pro, Apps SDK และ Sora 2 API ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
OpenAI ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการเทคโนโลยีอีกครั้งในงาน DevDay 2025 โดย Sam Altman, CEO ของบริษัท ได้เผยวิสัยทัศน์และเครื่องมือใหม่ที่จะทำให้การสร้างสรรค์ด้วย AI เป็นเรื่องง่ายและทรงพลังกว่าที่เคย
ภายในงาน OpenAI DevDay 2025 ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วโลกหลายร้อยล้านคน
สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป คือการมาถึงของ Apps SDK ซึ่งเหมือนการเปิด App Store ภายใน ChatGPT โดยจะอนุญาตให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันได้โดยตรงในหน้าต่างแชท
ทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบได้หลากหลายและปรับให้เข้ากับบุคคลได้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นเพียงการถาม-ตอบแบบเดิมๆ เราจะสามารถสนทนากับแอปฯเพื่อทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างราบรื่น
OpenAI ได้เปิดตัว AgentKit ชุดเครื่องมือที่จะช่วยให้นักพัฒนาสร้าง "AI Agents" หรือซอฟต์แวร์ที่สามารถรับมอบหมายและทำงานต่างๆ ได้ด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
นั่นหมายความว่าแอปพลิเคชันและบริการที่เราใช้อยู่เป็นประจำจะมีความสามารถสูงขึ้น สามารถรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและเสนอทางออกที่ชาญฉลาดได้อย่างอัตโนมัติ
Codex AI ที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรม ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ด้วยขุมพลังจาก GPT-5-Codex แม้จะเน้นไปที่นักพัฒนา แต่ศักยภาพของมันได้เปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่สำหรับทุกคน
ในงานได้มีการสาธิตการใช้คำสั่งเสียงเพื่อควบคุมกล้องและระบบไฟในห้องประชุมได้ทันที สิ่งนี้ชี้ให้เห็นอนาคตที่เราสามารถสั่งการให้อุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวทำงานตามต้องการได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดแม้แต่น้อย
GPT-5 Pro : โมเดลที่ฉลาดที่สุดของ OpenAI พร้อมให้นักพัฒนาใช้งานแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้แอปพลิเคชันในสาขาที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน กฎหมาย และการแพทย์ มีความสามารถในการให้เหตุผลและช่วยเหลือได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
Sora 2 API : ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับวิดีโอที่สร้างโดย AI ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเดิมผ่านแอปต่างๆ จุดเด่นคือความสามารถในการควบคุมการสร้างได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญคือการสร้างเสียงประกอบที่สมจริงและสอดคล้องกับภาพได้อย่างไร้ที่ติ
GPT-Realtime-Mini : โมเดลเสียงขนาดเล็กที่ราคาถูกลง แต่ยังคงคุณภาพเสียงและการแสดงอารมณ์ไว้เท่าเดิม จะทำให้เราได้เห็นฟีเจอร์เสียงพูดในแอปต่างๆหลากหลายมากขึ้นและมีราคาที่เข้าถึงได้
ที่มา : OpenAI