ผู้บริหาร OpenAI เยือนไทย เปิด 5 อันดับ คนไทยใช้ OpenAI ทำอะไรบ้าง?

ปัจจุบันเทคโนโลยี AI กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือช่วยเหลือทั้งในด้านการศึกษา การทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเป็นที่ปรึกษาปัญหาการใช้ชีวิตทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยเราเองที่มักจะเปิดรับการมาถึงของเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ ก็ไม่พลาดที่จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานในด้านต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งาน ChatGPT - OpenAI ที่มีข้อมูลเปิดเผยว่า จำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT รายสัปดาห์ในไทย เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในรอบปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยในการก้าวสู่โลกอนาคตแห่งเทคโนโลยี และกำลังยกระดับบทบาทสู่การเป็นผู้นำด้านการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI)

แล้วคนไทยใช้ OpenAI ทำอะไรบ้าง

ข้อมูลล่าสุดจาก OpenAI ระบุว่า มีคนไทยจำนวนมากให้การยอมรับ AI อย่างรวดเร็ว ซึ่งการใช้งาน AI ของคนไทยยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่

1. การแปลภาษา 
2. การขอคำแนะนำเชิงปฏิบัติ (How-to) 
3. การเรียนรู้และการติว 
4. การดูแลตนเอง 
5. การเขียนเชิงสร้างสรรค์

โดยกลุ่มที่มีการใช้งาน OpenAI มากที่สุดคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 18–24 ปี 

ผู้บริหาร OpenAI เยือนไทยครั้งแรก

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา House of Wisdom ร่วมกับ Woody World ได้จัดเวทีเสวนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “AI LEAP: Turning Today’s Disruption into Tomorrow’s Advantage” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย  ทั้งยังได้รับเกียรติจากคุณเจสัน (Jason Kwon) - Chief Strategy Officer ของ OpenAI เดินทางมาเยือนไทยเป็นครั้งแรก ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ด้านอนาคตของ AI เคียงข้างคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล - Group Chairman ของ KBTG ผู้นำด้านเทคโนโลยีและ Startup Ecosystem ของภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินรายการโดยพิธีกรมากความสามารถ คุณวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจชั้นแนวหน้ากว่า 100 คน

คุณเจสันได้กล่าวในงานว่า “การมองโลกในแง่ดีและความสามารถ ในการปรับตัวของคนไทย” คือ “แต้มต่อเชิงการแข่งขัน” ของคนไทยที่เอื้อต่อการก้าวสู่ยุค AI และยังเสริมว่า คนไทยกำลังยอมรับที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อเสริมศักยภาพและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และการเป็นผู้ประกอบการ AI เพื่อการเติบโตของทุกคน

ด้านคุณกระทิง ได้กล่าวถึง AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อสร้างความเท่าเทียม ว่า “เทคโนโลยีต้องเป็น สะพาน ไม่ใช่กำแพง AI จะช่วยลดช่องว่างทางโอกาส เปิดทางให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้ สร้างสรรค์ และเข้าถึงความรู้ได้ อย่างเท่าเทียม”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานเทคโนโลยีรุ่นแรก ไม่ว่าจะเป็น Mobile Banking หรือ Social Media และวันนี้ ความคล่องตัวนั้นได้ขยายมาถึง AI ซึ่งทำให้ไทยอยู่ในจุดที่พร้อมจะเป็นผู้นำในการผสาน AI เข้ากับชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมอนาคต “คนไทยเรียนรู้เร็ว ปรับตัวเก่ง สิ่งนี้อยู่ใน DNA ของเรา” – เรืองโรจน์ พูนผล เขายังกล่าวเสริมว่า ความคิดสร้างสรรค์ในระดับโลกของคนไทย ทำให้เราสามารถสร้างผลงานด้านโฆษณา และคอนเทนต์ที่ได้รับรางวัลมากมาย และเมื่อรวมเข้ากับ AI ไทยพร้อมจะก้าวสู่ความเป็นผู้นำในเวทีใหม่ของความ คิดสร้างสรรค์ 

และเวที OpenAI Forum ครั้งนี้ได้ตอกย้ำว่า การยอมรับ AI ของประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงการใช้งานในฐานะผู้บริโภค แต่ยังสะท้อนถึง พลังของคนรุ่นใหม่ การกำกับดูแลที่แข็งแรง และความมุ่งมั่นในการสร้างความเท่าเทียม ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังกลายเป็น รากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ระบบนิเวศ AI ที่มั่นคงและยั่งยืน