
SHORT CUT
Alphabet (GOOGLE) จ่อขึ้นแท่นบริษัทมูลค่า 4 ล้านล้านเหรียญฯ รายที่ 4 ของโลก หลังหุ้นพุ่ง 70% รับอานิสงส์ AI ตัวใหม่ Gemini 3 และแรงหนุนจากนักลงทุนระดับตำนาน Warren Buffett
Alphabet บริษัทแม่ของ Google กำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโลกการเงิน ด้วยการจ่อแตะระดับมูลค่าตลาดที่ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากทำสำเร็จ จะกลายเป็นบริษัทที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่ก้าวถึงจุดนี้ ต่อจาก Nvidia, Microsoft และ Apple
ราคาหุ้น Alphabet ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 5% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 315.90 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 3.82 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นการเติบโตเกือบ 70% ในปีนี้ ซึ่งแซงหน้าคู่แข่งคนสำคัญในสมรภูมิ AI อย่าง Microsoft และ Amazon
การพุ่งทะยานครั้งนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทิศทางของนักลงทุน ก่อนหน้านี้ Alphabet ถูกมองว่าอาจสูญเสียบัลลังก์เจ้าแห่งเทคโนโลยีให้กับ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT แต่ในปีนี้ Google ได้พิสูจน์ศักยภาพด้วยการเปิดตัวโมเดล Gemini 3 ที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกอย่างล้นหลาม
ประกอบกับการพลิกโฉมธุรกิจ Google Cloud ที่เคยถูกมองว่าเป็นจุดอ่อน ให้กลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสดที่สำคัญ ทำให้ความกังวลเรื่องการถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดจางหายไป
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จุดพลุความเชื่อมั่น คือการเข้ามาลงทุนของ Berkshire Hathaway ภายใต้การนำของ Warren Buffett
แม้จะมีข้อถกเถียงว่า Buffett เป็นคนตัดสินใจเองหรือไม่ แต่ Steve Sosnick นักวิเคราะห์จาก Interactive Brokers ชี้ว่า "ตลาดยังคงเชื่อว่าสิ่งที่ Berkshire เลือกนั้นคุ้มค่าที่จะลงทุนตามเสมอ" ซึ่งกลายเป็นจิตวิทยาหมู่ที่ดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ Alphabet อย่างมหาศาล
ขณะที่บริษัทเผชิญแรงกดดันด้านกฎหมายต่อต้านการผูกขาด แต่บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการขั้นรุนแรงอย่างการบังคับขายเบราว์เซอร์ Chrome มาได้ แม้ศาลจะตัดสินว่าธุรกิจ Search เข้าข่ายผูกขาดก็ตาม ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท
มีเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเกี่ยวกับภาวะ "ฟองสบู่ AI" ที่คล้ายคลึงกับยุค Dot-com ในทศวรรษ 1990 แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Google มีแต้มต่อที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย
เช่น ฐานะทางการเงินที่มั่นคง, การมีชิปประมวลผลของตัวเองช่วยลดต้นทุนและลดการพึ่งพาชิปราคาแพงจาก Nvidia, การผสาน AI เข้ากับระบบ Search ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ทำให้การสร้างรายได้จาก AI เป็นเรื่องที่จับต้องได้จริงมากกว่าคู่แข่งรายอื่น
ที่มา : REUTERS