วิกฤติ RAM ราคาพุ่ง 3 เท่า พิษ AI ทำชิปขาดตลาดหนัก หวั่นโจรขโมยพัสดุ

ราคา RAM และ SSD กำลังดีดตัวสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยบางรุ่นราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อนหน้า

สาเหตุหลักของปรากฏการณ์นี้เกิดจากกระแสความต้องการชิปสำหรับ AI ที่ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ระดับโลกตัดสินใจโยกสายการผลิตจากสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ไปทุ่มผลิตหน่วยความจำแบบ HBM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ซึ่งมีกำไรสูงกว่าแทน

ทำให้ซัพพลายในตลาดผู้บริโภคทั่วไปลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคา DDR5 และ SSD พุ่งทยานขึ้นทันที

อย่างไรก็ตาม บริษัทอย่าง Lenovo และ Apple ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักในระยะสั้น เนื่องจากมีการกักตุนชิปและทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้ครอบคลุมถึงปี 2026

ในทางตรงกันข้าม บริษัทขนาดเล็กอย่าง Framework ผู้ผลิตแล็ปท็อปแบบโมดูลาร์ ประกาศเตรียมปรับราคาและหยุดขาย RAM แยกชั่วคราว เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า

มีรายงานว่า AMD อาจต้องปรับราคา GPU ขึ้นราว 10% ในปีหน้า และ NVIDIA อาจต้องยกเลิกแผนการเปิดตัว RTX 50-series "Super" เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเม็ดแรม GDDR7

ราคาที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ RAM และ SSD กลายเป็น "ทองคำ" ชิ้นเล็กที่พกพาง่ายและขายต่อได้ราคาดี จนเกิดปัญหาอาชญากรรมในต่างประเทศ

โดยใน Reddit มีรายงานจากผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรที่สั่งซื้อ Crucial DDR5 แต่กลับได้รับเพียงซองเปล่า หรือถูกสวมรอยเซ็นรับของ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้สั่งซื้อออนไลน์ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้

สถานการณ์ในไทยหลังงาน Commart 2025 พบว่าราคาหน้าร้านมีการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ DDR5 อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์แบบประกอบในเดือนธันวาคม 2025 นี้ อาจยังโชคดีที่ราคายังไม่ดีดตัวขึ้นแรงนัก เนื่องจากร้านค้ายังใช้สต็อกเดิม แต่สิ่งที่หายไปคือโปรโมชันลดแลกแจกแถมที่เคยมี

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ควรรักษาอุปกรณ์ที่มีอยู่และชะลอการอัปเกรด RAM หรือ SSD ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การผลิตจะกลับมาสมดุลอีกครั้ง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานและขึ้นอยู่กับทิศทางของฟองสบู่ AI ในอนาคต

ที่มา : Videocardz, arstechnica