svasdssvasds

สรุปไทม์ไลน์ วิกฤต Zipmex Thailand คาดเสียหาย 5,500 ล้านบาท นักลงทุนไทยหวั่น

สรุปไทม์ไลน์ วิกฤต Zipmex Thailand คาดเสียหาย 5,500 ล้านบาท นักลงทุนไทยหวั่น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เวลา 19.00 ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล CEO ของ Zipmex Thailand ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีระงับการถอนเงินบาทและคริปโทเคอร์เรนซี ได้มีเหตุการณ์และการวิเคราะห์หลังจากนั้นมากมาย เราสรุปมาให้ดังนี้

Trading Account หรือบัญชีเทรดของ Zipmex นั้นไม่มีปัญหา เพราะเนื่องจากอยู่ภายใต้กฎหมายของ ก.ล.ต. ประเทศไทย ซึ่งมีข้อกำหนดอยู่ว่าห้าม Exchange หรือแพลตฟอร์มไปแตะต้องสินทรัพย์ของลูกค้า

จุดรั่วไหลหรือตัวที่มีปัญหา ’ZipUp’ และปิดช่องทางการซื้อขายไป หรือเรียกว่า ‘Z Wallet’ ที่ทำการให้คนนำสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง BTC,ETH,USDT หรือ USDC ไปฝากและจะได้ดอกเบี้ยสูงถึง 6-10% หรือในวงการคริปโทฯเรียกว่า ‘Yield’ 

Twitter ที่มีชื่อว่า @otterooooo ได้ออกมาโพสต์หลักฐานเส้นทางของสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯของ Zipmex Thailand ไปอยู่ใน Cold Wallet หรือกระเป๋าเงินของ Celsius และแน่นอน ขณะนี้ Celsius ได้ล่มสลายเรียบร้อยแล้ว นี่อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Zipmex Thailand ต้องปิดการซื้อขายตัว 'Z Wallet' ลง

CR.Twitter

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

กฎหมายของ ก.ล.ต ควบคุม ZipUp หรือไม่? มีความผิดไหม?

ZipUp หรือ Z Wallet ทำหน้าที่เป็นช่องทางที่ทำให้ Zipmex สามารถโอนเงินไปฝากไว้กับ Zipmex Global ซึ่งเงินเหล่านี้ที่ฝากเข้าไปจะไม่ได้ผ่านกฎหมายควบคุมจาก ก.ล.ต. ไทย เนื่องจากได้ดูโอนไปเป็น ‘สินทรัพย์ดิจิทัลนอกประเทศ’ เรียบร้อยแล้ว

แต่ในกรณีนี้ยังมีลูกค้าของ Zipmex ได้ออกมาแย้งและส่งอีเมล์ไปถึง ก.ล.ต. เรื่องข้อตกลงที่ทาง Zipmex เคยได้กำหนดไว้ ฉบับ 15 กันยายน 2021 ที่ระบุไว้ว่าผู้ให้บริการจะไม่ต้องรับผิดชอบหากการสูญเสียทรัพย์สินดิจิทัลเกิดจาก

1.ผู้ให้บริการไม่ปฎิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับผู้ใช้บริการ

2.ความผิดพลาดด้านเทคโนโลยี

3.การโจมตีทางไซเบอร์

และยังได้ระบุในข้อตกลงด้วยว่า ‘เมื่อคุณโอนเข้าสู่แพลตฟอร์ม กรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นซื้อขายเทรดจะตกเป็นของแพลตฟอร์ม’

ซึ่งหากเราอ่านข้อตกลงเหล่านี้เชื่อว่านักลงทุนหลายคนจะไม่กด ‘ตกลง’ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมาก แต่เนื่องจากการติดต่อของลูกค้ารายนั้นทำให้ ก.ล.ต. ได้ส่งเรื่องให้ทาง Zipmex แก้ไขเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นด้วยข้อตกลงเหล่านี้ ZipUp หรือ Z Wallet จึงสามารถนำเงินเหล่านั้นไปฝากต่อให้ Zipmex Global และนำไปฝากต่อกับคู่ค้าหรือสถาบันการเงินอื่นๆได้

ดร.ณปภัช ปิยไชยกุล (Dr.Big) ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Suthichai Podcast และวิเคราะห์ไว้ว่า ‘ทำไม? Zipmex ต้องปิดระงับการถอนวันที่ 20 ก.ค นี้) Zipmex ต้องประกาศหยุดถอนในวันนี้เพราะเดทไลน์ในการลงทะเบียนฟ้องร้อง Celsius เป็นวันสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนเข้าใจว่า Zipmex เกี่ยวข้องด้วย และแห่ถอนเงินใน Zipmex ทั้งหมด

มูลค่าเสียหายที่คาดการณ์รวมคือราว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย เว็บไซต์ชื่อดัง Cointelegraph พูดถึงผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่อ้างว่า Zipmex Global ได้นำเงินไปลงทุนกับ Celsius และ Babels เป็นจำนวนเงินรวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมประมาณ 5,500 ล้านบาท

ดร.ณปภัช ปิยไชยกุล ยังได้ตั้งคำถามใน LIVE ว่า ‘เวลาซื้อเหรียญดิจิทัลไป Exchange ได้เก็บเหรียญนั้นไว้อยู่หรือเปล่า หรือมีเพียงแต่ในระบบ เมื่อต้องการถอนและหากมันไม่มี และจะพิสูจน์ได้อย่างไร’ ซึ่ง ก.ล.ต. ต้องเข้ามาดูในส่วนนี้ และป้องกันรูปแบบที่คล้ายกับ ZipUp ที่ยังไม่มีกฎหมาย ก.ล.ต. ควบคุม

จึงมีข้อสงสัยที่หลายคนสับสนว่า ก.ล.ต. ถือว่าการกระทำแบบนี้ ‘ผิดกฎหมาย’ หรือไม่ ในกรณีนำสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนไทย ไปปล่อยกู้หรือใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆ

ซึ่งถึงแม้เราจะกดตกลงในการสมัครไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงต้องเฝ้าติดตาม ก.ล.ต. ว่าตามกฎหมายจะมีผลหรือไม่ เพราะจริงแล้ก.ล.ต.ลต. อนุญาตให้ Exchange ไทยสามารถใช้ผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน (Custodian) ได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำสินทรัพย์ไปทำอย่างอื่น

แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาลูกค้า zipup จะได้รับอีเมล์ที่แจ้งนโยบายว่า ZipUp นั้นจะถูกย้ายไปอยู่ภายใต้ Zipmex Asia ซึ่งไม่ใช่บริษัทที่ถูกกำกับ ก.ล.ต. ทำให้สามารถเอาเงินลูกค้าไปปล่อยกู้ได้ และนั่นมีการคาดการณ์ว่าคือ ‘Celsius’

ล่าสุดราคา ZIPMEX ร่วงลงกว่า 33% โดยทันทีหลังแถลงการณ์และเมื่อเปิดให้ฝากถอนผ่าน Trade Wallet ได้ คาดว่าผู้คนแห่ขาย ZMT Token อย่างหนัก ณ เวลา 22:08 น อยู่ที่ 13.65 บาท

related